Lady Avara
ปัง!!
เสียงประตูไม้บานใหญ่ถูกเปิดออกดังขึ้นกึกก้องไปทั่วห้องโถงใหญ่ คนที่อยู่ในห้องนั้นต่างจ้องไปที่ประตูพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย
ผู้มาเยือนมีทั้งหมดห้าคน ประกอบไปด้วยสตรีนางหนึ่งซึ่งเดินนำหน้าอยู่ ท่าทางองอาจ ผมยาวสีดำขลับเงางามใบหน้าขึงขังจริงจังคมเข้ม สายตาแหลมดุจเหยี่ยว นางใส่เกราะที่หลอมจากเหล็กอย่างดีจากอาณาจักรทางตอนใต้สองข้างเอวเหน็บดาบคู่ใจไว้สองเล่ม ส่วนที่เดินตามมาอีกสี่คนนั้นเป็นชายฉกรรจ์รูปร่างสูงใหญ่ในชุดเกราะเหล็กสวมหน้ากากปกปิดใบหน้ามิดชิด – ทั้งห้าเดินตรงเข้ามาในห้องอย่างไม่เกรงกลัว ในขณะที่ผู้ที่อยู่มาก่อนนั้นต่างชักดาบออกมาเพื่อเตรียมปกป้องบุคคลสำคัญซึ่งนั่งอยู่ที่เก้าอี้เหล็กตัวใหญ่ด้านในสุดของห้อง – เจ้าเมืองแห่งนี้นี้เอง
ผู้มาเยือนมีทั้งหมดห้าคน ประกอบไปด้วยสตรีนางหนึ่งซึ่งเดินนำหน้าอยู่ ท่าทางองอาจ ผมยาวสีดำขลับเงางามใบหน้าขึงขังจริงจังคมเข้ม สายตาแหลมดุจเหยี่ยว นางใส่เกราะที่หลอมจากเหล็กอย่างดีจากอาณาจักรทางตอนใต้สองข้างเอวเหน็บดาบคู่ใจไว้สองเล่ม ส่วนที่เดินตามมาอีกสี่คนนั้นเป็นชายฉกรรจ์รูปร่างสูงใหญ่ในชุดเกราะเหล็กสวมหน้ากากปกปิดใบหน้ามิดชิด – ทั้งห้าเดินตรงเข้ามาในห้องอย่างไม่เกรงกลัว ในขณะที่ผู้ที่อยู่มาก่อนนั้นต่างชักดาบออกมาเพื่อเตรียมปกป้องบุคคลสำคัญซึ่งนั่งอยู่ที่เก้าอี้เหล็กตัวใหญ่ด้านในสุดของห้อง – เจ้าเมืองแห่งนี้นี้เอง
“เมือง เอร่อน ถูกกองทัพของข้าพิชิตได้แล้ว เอาล่ะ...
ก่อนจะเปิดฉากละเลงเลือด ข้าจะให้โอกาสคนที่..”
สตรีผู้นำทางเอ่ยขึ้นมาพร้อมทั้งชักดาบจากเอวขึ้นมาอย่างรวดเร็วเพื่อขจัดหอกแหลมที่พุ่งตรงมาหมายสังหารนางอย่างไม่ทันตั้งตัว
“ไม่ต้องล่ะ.. วันนี้ไม่มีใครรอดแล้วล่ะ..”
สิ้นคำขาดผู้ติดตามทั้งสามต่างก็ชักดาบขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียงมีเพียงหนึ่งคนทางด้านซ้ายมือเท่านั้นทีดึงหอกเหน็บออกมากด้านหลังกวัดแกว่งควงไปมาอย่างชำนาญ
– ทั้งสี่วิ่งนำหญิงผู้นำไป สังขารเหล่าทหารศัตรูตรงหน้าอย่างรวดเร็ว
“ซะ...เซอร์..จอห์นสัน...ปะ..ป้อง..กษัตริย์...เร็วเข้า...” ชายชราซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ
เจ้าเมืองนั้นเปล่งเสียงแหบแห้งออกมาอย่างสิ้นหวัง – ทหารกลุ่มใหญ่กรูกันเข้ามาบดบังชายที่นั่งอยู่บนเก้าอี้นั้นพร้อมทั้งคว้าอาวุธของตนขึ้นมาเตรียมป้องกันเต็มที
“เซอร์?...
กล้าดีอย่างไรถึงได้แต่งตั้งกันเอง ช่างไร้เกียรติ เจ้าพวกกบฏ... เซอร์อาทูร่า..
จัดการพวกมันให้หมด..” นางเอ่ยขึ้นมาพร้อมทั้งออกคำสั่งให้ เซอร์อาทูร่า
ซึ่งเป็นผู้ติดตามคนที่ถือหอกนั้นปริเข้าไปสังหารศัตรูผู้อวดดี – “รับทราบ..นายหญิง..” เสียงขานรับลอดออกมาจากใต้หน้ากาก
น้ำเสียงนั้นแฝงไปด้วยความมีอารมณ์ขัน
“แม่ทัพสิ.. เรียกข้าว่าแม่ทัพ.”
เซอร์อาทูร่า
พุ่งเข้าไปจัดการบรรดาศัตรูตรงหน้าอย่างรวดเร็ว แม้ว่าร่างกายของเขาจะดูหนาและเกราะที่ใส่จะดูพะรุงพะรังแต่ฝีไม้ลายมือการต่อสู้นั้นตรงกันข้าม
เขากระโดดตีลังกาไปมาพร้อมทั้งควงหอกแทงสลับกับฟันศัตรู --
ทหารฝั่งตรงข้ามต่างแตกพ่ายไม่เป็นกระบวน จนที่สุดแล้ว
พวกที่เคยตั้งพลกันหนาแน่นเพื่อปกป้องเจ้าเมืองนั้นต่างก็กระจายกันไปคนละทิศคนละทางและต้องตกไปเป็นเหยื่อของคมดาบกันแทบจะทุกราย
แม่ทัพหญิง
ยืนกอดอกมองดูการสังหารอย่างใจเย็น พลางส่งสายตายียวนไปยังเจ้าเมืองซึ่งนั่งตัวสั่นอยู่บนบัลลังก์
– “เซอร์น๊อตติ้ง ไปจับตัวพวกญาติๆมา... เซอร์แอฟฟร่า และเซอร์ไกอา ฆ่าให้หมด...”
ภาพการสังหารโหดตรงหน้านั้นดำเนินต่อไปเรื่อยๆอย่างไหลลื่น
ผู้มาเยือนทั้งห้าไม่มีใครเจ็บตัวเลยแม้แต่น้อย พวกเขาฆ่าศัตรูเยี่ยงผักปลา..
จนในที่สุด ทหารผู้ซึ่งมีอาวุธติดตัวก็ล้มตายกันหมดทั้งท้องพระโรง
สร้างความตื่นตระหนกและหวาดกลัวให้กับบรรดาผู้ที่ยังรอดชีวิตอยู่
ซึ่งเป็นเพียงคนชราและเด็กเป็นอย่างมาก
“นังแม่มด....อย่างน้อยก็ขอให้แกตายไปด้วย..” ชายชราหนวดเคราสีเทารุงรังในชุดผ้าคลุมยาว
ชักดาบยาวออกมาพร้อมทั้งถลาตรงเข้ามาหา แม่ทัพหญิง หมายผลีชีพ –
เธอยกมือปรามผู้ติดตามทั้งสามซึ่งกำลังจะเข้ามาทำหน้าที่อารักขาให้หยุดลง..
พร้อมทั้งชักดาบออกมาในจังหวะเดียวกันกับที่เขาพุ่งเข้ามาหา
ตวัดปลายดาบอย่างรวดเร็วจนยากเกินกว่าจะมองเห็นได้ทัน
ภาพที่เห็นได้ชัดหลังจากนั้นคือศีรษะของชายชราซึ่งลอยขึ้นมาอยู่บนอากาศ
ตาเหลือกกว้างปากอ้าค้าง
“ฆ่าพวกไอ้แก่ให้หมดเลย เหลือ ไอ้ราชาจอมปลอมไว้คนเดียว...” นางออกคำสั่งอย่างเลือดเย็นต่อไป –
เซอร์ทั้งสามลงมือทันที รอบๆตัวของพวกเขานั้นเต็มไปด้วยร่างไร้วิญญาณของบรรดาทหาร
สภาพแต่ละคนนั้นไม่ครบส่วนซักเท่าไหร่ – “นั่งอยู่ตรงนั้นแหละ
ไม่ต้องขยับไปไหน..” นางจ่อปลายดาบไปที่คอของเขากดลงเบาๆเชิงข่มขู่
“ไอ้พวกชั่วช้า..” ผู้ถูกคุกคามตอบกลับมาด้วยเสียงสั่นเทา
“เหอะ ชั่วช้า!
พวกเจ้ามากกว่า.. ข้ามาในนามของกษัตริย์ที่แท้จริงองค์เดียวของอาณาจักรแห่งนี้
การที่เจ้าตั้งตนขึ้นเป็นเจ้าเมืองปกครองเป็นอิสระเช่นนี้นับเป็นกบฏ ความจริงแล้วข้ามีพระราชโองการเป็นลายลักษณ์อักษรมาด้วย
แต่เผอิญว่าทำหายไปแล้วระหว่างเดินทาง หวังว่าคมดาบในมือข้าคงจะใช้แทนกันได้นะ”
“พวกแกจะต้องไม่ตายดี.. พวกแกทั้งหมด!! โดยเฉพาะพวกแก
ไอ้พวกอัศวินไร้เกียรติสังหารคนไม่มีทางสู้” เขาหันไปตวาดใส่
ชายในหน้ากากทั้ง 3 คน ซึ่งก็ไม่ได้มีผลอะไรนักกับพวกเขา
“อยากจะพูดอะไรก็พูดไปเถอะ..
เซอร์น๊อตติ้งกำลังจะกลับมาพร้อมกับครอบครัวของเจ้า.. อ๊ะ.. นั้นไง..
พูดถึงก็มาเลย” ผู้นำหญิง หันไปกวักมือเรียก เซอร์น๊อตติ้ง
ซึ่งกำลังเดินเข้าในห้องโถงนี้ พร้อมด้วย ผู้หญิงอีก 3 คน “จับพวกมันมายืนเรียงกัน”
“ละ..ลูกเมีย..ข้า เกี่ยวอะไรด้วย การนี้ข้าคิดคนเดียว.. จะลงกับข้าสิ
อาญานี้ข้าต้องเพียงคนเดียวเท่านั้น”
เจ้าเมืองรีบทวงขึ้นมาเมื่อตัวประกันค่อยๆเดินเรียงแถวกันเข้ามา –
พวกเขาก้มหน้าและสะอื้นเสียงหลงตลอดทาง ใบหน้าแต่ละคนนั้นเศร้าหม่อง
ต่างไม่กล้าสบตากัน
“ฐานกบฏนั้นต้องอาญาทั้งตระกูล..
ในนามของคิงส์แมคไฟร์ที่3 กษัตริย์หนึ่งเดียวผู้ปกครองอาณาจักรดองส์การ์ด
บุรุษเหนือบุรุษผู้พิชิตทั่วทิศ ผู้ถือครองดาบศักดิ์ศรีแห่งมหาสมุทรและผู้อัญเชิญเทพเจ้าแห่งท้องทะเล
ข้าเลดี้ เอวา-ร่า ทอตต์ แม่ทัพแห่งกองรบที่8
ขอเอ่ยนามของพระองค์เพื่อพิพากษาประหารชีวิตเจ้า .. เจ้าชื่ออะไรนะ?..ช่างเถอะ..
เจ้าแก่หน้าโง่ตรงหน้าข้า..และครอบครัวหน้าตาอัปลักษณ์.. ” หลังจากที่เอ่ยพระนามและท่องคำถวายยืดยาวเสร็จ
เอวา และบรรดาผู้ติดตามทั้ง 4 ต่างก็หัวเราะออกมาราวกับว่าเป็นเรื่องขบขัน
“ท่านหญิง... ท่านท่องผิดอีกแล้วคิงส์แมคไฟร์ที่3
ถือครองดาบแห่งพิภพต่างหาก ดาบแห่งมหาสมุทรนั้นของคิงส์แมคไฟร์ที่2..”
องค์รักษ์คนหนึ่งกล่าวแย้งขึ้นมาพร้อมทั้งถอดหน้ากากออก.. “อึดอัดชะมัด..” – ใบหน้าของเขาคมเข้มดูมีเสน่ห์ ผิวคล้ำน้ำตาลไว้หนวดเคราตัดแต่งพองาม
เขาคือ เซอร์อาทูร่า. ผู้ใช้หอกเป็นอาวุธ
เมื่อเซอร์อาทูร่า
ถอดหน้ากากออกแล้วคนที่เหลือก็ถอดตามบ้างตามลำดับ..
“เอาล่ะ..
ได้เห็นใบหน้าอันหล่อเหลาของบรรดาทหารของข้าแล้ว.. ต่อไปเราจะทำอะไรกันต่อดี” เอวาเอ่ยขึ้นมา
พร้อมทั้งควงดาบเดินกลับไปมาระหว่าง พระราชาจอมปลอมกับครอบครัว “อะไรที่มัน..จะเลวร้าย...น้อยที่สุด..
และฆ่าเวลาได้ดีที่สุด
ก่อนที่ทหารที่เหลือของข้าจะจัดระเบียบข้างนอกจนเรียบร้อย...”
เอวาเดินมาหยุดอยู่หน้าหญิงสาวมีอายุซึ่งกำลังก้มหน้าร้องไห้อยู่
– “เงยหน้าหน่อยสิ เจ้าคงจะเป็นเมียของเจ้าแก่นั้น...ใบหน้าเหี่ยวย่น น่าเกลียด.. หึหึ.. ข้าเดาว่า
เจ้าแก่หน้าโง่นั้นคงจะเมินถ้ำโสโครกของเจ้ามานานแล้วสินะ..”
“อย่าพูดอย่างนี้กับท่านแม่ข้านะ...” ผัวะ!!!
หญิงสาววัยรุ่นซึ่งยืนอยู่ข้างๆกัน
ตะโกนขึ้นมาและถูกตบด้วยหลังมือของเอวาจนต้องลงไปนั่งทรุดอยู่กับพื้นกุมที่แก้มด้วยความเจ็บปวด
–“ข้าไม่ได้คุยอยู่กับเจ้า นังโสเภณี.. หึ
ไร้มารยาท.. ต้องสั่งสอนกันหน่อยแล้ว.. เซอร์ไกอา ”
“ครับ..นายหญิง..” เซอร์ไกอาโค้งรับพร้อมทั้งยิ้มอย่างมีเลศนัยก่อนที่จะตรงเข้ามาจับ
ลูกสาวคนโตของผู้ปกครองแห่งนี้ให้ยืนขึ้นมา – ถกกระโปรงยาวของยาวขึ้นจนถึงแก้มก้น
กดหลังนางให้โค้งลง ท่ามกลางเสียงกรีดร้องของครอบครัวที่เหลือ
“อย่า..ได้โปรด...”
หัวหน้าครอบครัวซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ตะโกนร้องขอและพยายามจะลุกออกมาจากเก้าอี้เพื่อลงไปคุกเข่าก้มหัวขอร้อง
หากแต่ถูกขัดขวางโดยเอวาเสียก่อน – “ลองเจ้าขยับหรือส่งเสียงออกมาอีกแม้แต่คำเดียว
ข้าจะเริ่มบั่นหัวครอบครัวเจ้าทีละคน.. ลงมือต่อไปเลย เซอร์ไกอา
ข้าอยากจะดูอะไรที่มันจรรโลงตาเสียหน่อย... ”
หญิงสาวผู้ซึ่งกำลังถูกข่มเหงกรีดร้องออกมาจนเสียงแหบแห้ง
– น้ำตาของเธอหยดลงเป็นสาย เมื่อถูกชายแปลกหน้ากระทำจากด้านหลัง –
เซอร์ไกอาปลดเข็มขัดออกพร้อมทั้งดึงกระดุมกางเกงออกสามเม็ด
ควักเอาแท่งชายขนาดบึกบึนซึ่งแข็งพอจะเสียบได้แล้วออกมาถูที่แก้มก้นขาวเนียนของหญิงสาว
“ท่านอัศวิน...ได้โปรด..ท่านอัศวิน..” เธอร้องขอต่อไป
ในขณะที่ครอบครัวคนอื่นๆได้แต่ก้มหน้าอยู่เงียบๆไม่กล้าแม้แต่จะส่งเสียงร้องออกมา –
“ยกโทษด้วยเถอะแม่หญิง.. นายสั่งมา..”
สิ้นประโยคนั้นเซอร์ไกอา
ก็จัดการเสียบท่อนเอ็นยักษ์มุดเข้าไปในช่องสวาทแคบๆของนางทันที.. –
เลือดสีอ่อนๆไหลซึมออกมาเมื่อท่อนเนื้อนั้นควงเข้าไปได้ครึ่งลำ
หญิงสาวเงยหน้าขึ้นอ้าปากค้างไม่มีเสียงร้องใดๆออกมา ตาของนางเหลือกขึ้นดูท่าทางทรมาน
– “แน่นจริงๆเลย..” เซอร์ไกอาวิจารณ์พร้อมทั้งพยายามดันเอวเข้าไปอีก จนในที่สุด
ของของเขา ก็เข้าไปในตัวของเธอทั้งแท่ง... ทำให้เธอหมดสติลงไปในทันที
“เหอะ.. ครั้งแรกก็ปอดซะแล้ว..” เอวาพูดขึ้นมา “ปล่อยนางไปได้.. เจ้าคงไม่ได้สำเร็จความใคร่กับนางแล้วล่ะ”
เซอร์ไกอาค่อยๆวางร่างไร้สติของหญิงสาวนั้นลงช้าๆอย่างสุภาพ
ก่อนที่จะเก็บอาวุธของตัวเองเข้ากางเกงไป กลับไปยืนตรงเช่นเคย
แล้วเอวา
ก็เหลือบไปเห็นเข้ากับอะไรบางอย่าง –
พระราชาจอมปลอมนั้นกำลังนั่งร้องไห้อยู่บนบัลลังก์สมมติ
หยดน้ำตาไหลรินร่วงสู่หัวเข่า แต่เอวาไม่ได้เห็นเช่นนั้น
เธอเห็นบางอย่างที่ผิดปกติไป บางอย่างที่อาจจะสร้างความสุขแบบพิลึกให้กับเธอได้ –
ที่เป้ากางเกงของชายผู้นั้นกับมีบางอย่างโด่ขึ้นมาได้อย่างน่าประหลาดใจ
“โห.. ดูนั้นสิ ท่านทั้งหลาย..”เธอพูดและชี้ไปที่เป้าของชายบนเก้าอี้
เขารีบบิดตัวหนีและเอามือปิดทันทีด้วยความเขินอาย “ดันมามีอารมณ์ซะอย่างนั้น.. กับลูกสาวตัวเองเนี้ยนะ ไอ้เฒ่าตัณหากลับน่าสมเพชเอ๊ย..”
เสียงหัวเราะของเหล่าผู้ชนะดังขึ้นเย้ยหยันกดผู้พ่ายแพ้ให้ต่ำลงไปอีก
เอวาเดินมาลูบผมหญิงซึ่งเป็นภรรยาของเจ้าเมืองอย่างเอ็นดูและพูดกับเธอด้วยเสียงเล็กๆเหมือนพูดกับเด็ก
"ก็แหม.. ข้าบอกแล้วใช่ไหมว่าเจ้ามันเหี่ยว
และน่าเกลียด ต้องขอบคุณพวกข้านะ
หากปล่อยไว้นานวันไอ้แก่นั้นได้ตัณหากลับเอาลูกสาวตัวเองแน่ๆ ฮ่าๆๆๆๆ"
“เจ้าไม่รู้จักเขาดีพอ!! ยัยเด็กเมื่อวานซืน...” สุดจะอดกลั้นอีกต่อไป หญิงผู้ถูกดูถูกมาเนินนานตอกกลับด้วยเสียงหนักแน่น
พร้อมทั้งเงยหน้าขึ้นมาประจันสายตาเข้ากับนักรบหญิงอย่างห้าวหาญ
“โอ้ว.. น่าสนใจ... น่าสนใจ จริงๆ..
ยัยแก่นี้มีไฟจะฮึดสู้สินะ...” เอวาหันไปมองพรรคพวกและยิ้มให้กันราวกับว่ารู้ถึงเหตุการณ์ขั้นต่อไป
“เดี๋ยวเจ้าจะได้เห็น.. ความเป็นจริงนะยัยเฒ่า”
เอวาเข้าไปหาพระราชาจอมปลอม
หันหลังให้กับเขา สายตาจ้องมองมาที่หญิงคู่อริพร้อมทั้งส่งรอยยิ้มแบบมั่นใจมาให้ –
เธอปลดสายคล้องเอวซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเกราะออกโยนทิ้งไปข้างล่างพร้อมกับดาบ
เผยให้เห็นต้นขาเนียนขาวของเธอซึ่งดูงดงามไม่แพ้กับหญิงสาวผู้ชุบตนเป็นอย่างดี
ก่อนที่จะเริกกระโปรงด้านในขึ้นช้าๆ
เพื่อให้ชายผู้อยู่ข้างหลังเห็นของสงวนเธอได้ชัดเจน ส่ายสะโพกยั่วยวนไปมาช้าๆ
รอยยิ้มบนใบหน้ายังคงจดจ้องไปที่ภรรยาของผู้ถูกยั่วยวน
ร่อนเอวได้ครู่หนึ่งเธอก็ค่อยๆนั่งลงบนตักของเขาช้าๆ
เอาร่องแฉะๆของตนถูไปมาบนส่วนที่แข็งขึ้นมาจนเกือบทะลุกางเกง มันแข็งขึ้นมาเรื่อยๆ
– “เป็นไงล่ะ.. เจ้าราชินีจอมปลอม..
ถ้ำเก่าๆเหี่ยวๆของเจ้าคงจะยั่วยวนให้ผัวรักตื่นตัวแบบข้าไม่ได้แล้วสินะ..”
ผู้ถูกถามก้มหน้าหลบตาหันไปมองทางอื่นแทน
เธอขบริมฝีปากไว้แน่นจนแก้มสั่นเป็นริ้ว
ลูกสาวคนข้างๆนั้นคว้ามือแม่ของเธอไปบีบไว้ และร้องไห้ออกมาเบาๆ
“น่าสมเพช...”
เอวาสบถออกมาอย่างผู้มีชัย พร้อมทั้งดึงกระดุมกางเกงของชายผู้อยู่ด้านหลังออก..จับเอาท่อนเอ็นเหี่ยวๆของเขาซึ่งกำลังๆค่อยๆแข็งตัวขึ้นมาอยู่นั้น
รูดขึ้นรูดลงช้าๆ “มองทางนี้สิ... ยัยแก่หนังเหี่ยว
มองท่อนลึงค์ท่อนนี้สิ ท่อนที่เจ้าเคยควบจนได้ลูกสาวมาสองคนยังไงล่ะ.. มองสิ...
ข้าจะควบมันให้เจ้าดู..”
เมื่อพูดจบเธอก็ขึ้นไปนั่งบนตักของเขา
จับเอาท่อนเนื้อซึ่งยังไม่แข็งดีนักสอดเข้าไปในรูสวาทซึ่งเปียกชุ่มพร้อมรับศึกของเธอ..
เธอต้องใช้มือขวาจับไว้เสมอเพื่อไม่ให้มันลื่นหลุดออกมา พลางขย่มขึ้นลงช้าๆ
สายตาแน่วแน่ไปที่ ภรรยาของเจ้าของท่อนเอ็นที่เธอขย่มอยู่นี้หมายเย้ยหยัน “มองสิ.. มอง..มาทางนี้ ยัยแก่อวดดี” เธอตะโกนท้าทายขึ้น
เซอร์ไกอาเดินเข้ามาที่ด้านหลังของภรรยาเจ้าเมืองพร้อมทั้งค่อยๆจับคอของเธอเงยขึ้นมาช้าๆ
เพื่อให้เธอได้มองภาพบาดตาตรงหน้าได้อย่างชัดเจน – ถ้าเธอหลับตาเขาก็จะถ่างหนังตาเธอขึ้นมาให้ได้ จนที่สุดแล้ว
เธอก็จำต้องยอมมองภาพนั้นไปเรื่อยๆ
โดยมีเสียงหัวเราะและรอยยิ้มของอริศัตรูดังขึ้นตลอดเวลา
“ข้าขอโทษ...มานเน่ ข้าขอโทษ..” ชายผู้ถูกข่มขืนพร่ำบอกภรรยาด้วยน้ำตา
ทว่าท่อนเนื้อล่างของเขานั้นกลับแสดงออกมาอย่างตรงกันข้าม มันค่อยๆแข็งตัวเรื่อยๆ
จนในที่สุด เอวาก็ไม่ต้องคอยจับมันอีกต่อไป.. เธอตั้งเข่าทั้งสองขึ้นพร้อมทั้งทิ้งเอวลงไปที่ท่อนลึงค์ของเขา
กระแทกกดและบดขยี้อย่างรุนแรงจนน้ำหล่อลื่นนั้นกระชอกออกมาในบางจังหวะ
กระนั้นแล้วเธอก็ยังไม่ครางออกมาแม้แต่น้อยเลย
“ไอ้หนูของผัวเจ้ามันกระจอกสิ้นดี..
ข้าแทบจะไม่รู้สึกกระซ่านกระสันเลย เหอะ ไม่ได้เรื่อง เอานางมานี้..”
เธอออกคำสั่งในขณะที่กำลังร่อนเอวบนท่อนเอ็นที่เธอพึ่งจะวิจารณ์ไปว่ามันไม่ได้เรื่อง
– เซอร์ไกอาพา มานเน่ เดินขึ้นมาที่บัลลังก์
กดใบหน้าของเธอให้อยู่ในระดับเดียวกับอวัยวะเพศของชายคนรักกับหญิงจอมโฉดซึ่งกำลังขานรับกันอยู่
มานเน่เบือนหน้าหนีอย่างรังเกียจ มันน่าขยะแขยงเกินกว่าที่เธอจะรับได้
“หึ ทำเป็นเดียรดาษไปได้.. เซอร์ไกอา ขอแรงหน่อย..” เอวาพูดขึ้นและดึงคอเซอร์ไกอาเข้ามาใกล้ๆ
ประกบริมฝีปากของเธอเข้ากับริมฝีปากของเขา พร้อมทั้งแลกจูบกันอย่างดูดดื่ม
ในขณะที่เอวก็ยังคงขย่มต่อไป.. –
เธอสอดลิ้นเข้าไปในช่องปากของเขาและไล้ไปมาอย่างเผ็ดร้อน
ชายหนุ่มเองก็ไม่น้อยหน้าแลกลิ้นกลับไปหานายสาวอย่างเท่าทันกัน
เอวาใช้มือข้างที่ว่างอยู่นั้นเขี่ยที่บริเวณเม็ดกระสันของตนเองซึ่งเป่งออกรับอารมณ์เสียวเบาๆก่อนที่จะเร่งระดับขึ้น
ตอนนี้เธอถอนร่องสวาทสาวออกมาจากท่อนเอ็นของเจ้าเมืองแล้ว
กลับตั้งสมาธิกับการแลกจูบกับลูกน้องหนุ่มรูปงามแทน
“ซี้ด... จ๊วบบบ อา.... มันต้องอย่างนี้... จ๊วบบบ” เธอครางออกมาในลำคอและเร่งความเร็วที่มือมากขึ้น
จนในที่สุด – น้ำรักของเธอก็กระชอกออกมาจากช่องแคบ.. โปรยปรายออกมาเหมือนสายฝนลงมาตกบนใบหน้าของ
มานเน่ ผู้ซึ่งถูกกดหัวไว้ในอยู่ในตำแหน่งนั้น
เป็นการดูถูกเหยียดหยามอย่างร้ายแรงที่สุดในฐานะของลูกผู้หญิงเลยก็ว่าได้
หลังจากที่เสร็จกิจกับคู่ผัวเมียนี้แล้ว
เอวาก็ลุกขึ้นมา แต่งกายให้เรียบร้อยเหมือนเดิม
และสั่งให้ลูกน้องพาตัวทั้งสองคนลงไปนั่งข้างล่าง..
ส่วนตนนั้นถือครองเก้าอี้เหล็กดังกล่าวเป็นที่นั่งของตนแทน
ทหารจากข้างนอกเริ่มทยอยกันเข้ามาในห้องโถงนี้แล้ว
พวกเขาต่างรายงานเกี่ยวกับเรื่องชัยชนะและการยอมสวามิภักดิ์ต่อผู้พิชิตคนใหม่ของบรรดาลูกเมือง – เอวาออกคำสั่งให้ปลดธงของเมืองออกให้หมด และขึ้นธงของอาณาจักรแทน
พร้อมทั้งสั่งให้บรรดาผู้ที่ต้องการถวายความจงรักภักดี
ให้รีบนำมาถวายก่อนอาทิตย์จะตกดิน มิฉะนั้นเธอจะถือว่าแข็งข้อ
และจะเริ่มการกวาดล้างทันที
ส่วนเจ้าเมืองและภรรยานั้นถูกสั่งให้นำไปขังไว้ที่คุกใต้ดินรอการไต่สวนต่อไป
– แต่ที่น่าสงสารกว่านั้นคือลูกสาวทั้งสองของเธอ
ที่จะต้องถูกนำไปเป็นเครื่องระบายอารมณ์ให้กับบรรดาทหารเลวซึ่งอดอยากจากสงครามมานาน
เมืองเอร่อน
บริเวณชานเมือง
ร้านซ่อมรองเท้าบาร์เดอร์ซึ่งมีสองสามีภรรยาวัยรุ่นเป็นเจ้าของกิจการอยู่
สามีนั้นชื่อ เมฟ เป็นชายหนุ่มมีไฟจิตใจงดงามขยันขันแข็งเอางานเอาการ
รูปงามและแข็งแรงที่สำคัญคือรักภรรยาเหนือสิ่งอื่นใด ภรรยาชื่อ เมน่า
เงียบขรึมกับคนภายนอกแต่ร่าเริงกับสามี เป็นคนขี้อายและค่อนข้างจะเก็บตัว
“ท่านได้ข่าวการพิชิตของกองทัพจากกษัตริย์หรือยังท่านพี่?”เมน่า เอ่ยถามขึ้นมาในขณะที่เธอกำลังนั่งเย็บผ้าอยู่
สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความวิตกกังวลด้วยนิสัยส่วนตัวแล้วนั้น
เธอไม่ค่อยชินกับการเปลี่ยนแปลงซักเท่าไหร่
“พี่รู้มาแล้วล่ะ..” เมฟตอบ
เขาพึ่งจะซ่อมรองเท้าเหล็กของนักรบซึ่งเป็นลูกค้าขาประจำเสร็จและกำลังจัดเต็มสิ่งของเพื่อที่จะทำขึ้นไปถวายความจงรักภักดีต่อผู้พิชิต
“ได้ข่าวมาว่า กองทัพของเลดี้เอวา-ร่า
เป็นผู้พิชิตด้วย คงจะเคี่ยวน่าดู.. อีกนัยหนึ่งพี่ก็ว่าดีแล้วล่ะ ราชาจอมปลอมของเราสถาปนาตนเองเสี่ยงหัวขาดแต่ต้นแล้ว
ซ้ำร้ายยังจะเก็บภาษีเพิ่มจนชาวเมืองต้องเดือดร้อนเสียอีก”
หญิงสาวหันมาทำหน้าจริงจังใช่ทันที
พร้อมทั้งกระซิบเสียงเบาๆ “เราไม่ควรพูดเรื่องนี้นะพี่ จะหัวขาดเอานะ”
ชายหนุ่มยิ้มและยังไม่ตอบอะไรกลับไป
เขาเดินตรงเข้ามาหาเธอ ก้มลงจูบลงบนกระหม่อมเบาๆอย่างเอ็นดูพร้อมทั้งสวมกอดเธอจากด้านหลัง
จนหญิงสาวต้องผละออกจากงานตรงหน้าและรับไออุ่นจากสามีอย่างเต็มใจ – “จะกลัวอะไรไปหากมีพี่ล่ะ..” –
มือของเขาค่อยๆล้วงเข้าไปในร่องคอเสื้อของเธอช้าๆ
“ท่านล่ะก็..กลางวันแสกๆเลยนะ...อื้ม...
อย่าพึ่งสิคะ...” เธอบ่ายเบี่ยงสามีออกเป็นพิธี ในขณะที่มือของ
เมฟ นั้นประคองสองเต้าอวบอั้นซึ่งซ่อนรูปอยู่ภายในเสื้อของเธอเรียบร้อยแล้ว
ชายหนุ่มใช้ปลายนิ้วเขี่ยยอดปทุมถันซึ่งเปล่งบานได้ทีของหญิงสาวอย่างสนุกสนาน
พลางใช้ริมฝีปากประคบที่ติ่งหูนิ่มๆของเธอเป็นการหยอกเย้า
“ท่านพี่.. อย่าพึ่งซิ..” นางอิดออดต่อไปด้วยรอยยิ้ม “ทางต้องรีบไปถวายเครื่องจงรักภักดีนะ..”
“นั้นก็เป็นกิจสำคัญ
แต่ร่วมรักกับเมียนั้นสำคัญกว่ามั้ง เจ้าไม่อยากร่วมรักกับพี่หรือ แม่ยอดดวงใจ”
“อยากสิจ๊ะ..
ข้าอยากจะถูกท่านสอดใส่จนแทบจะรอไม่ไหวแล้ว”
นางตอบกลับด้วยเสียงอ่อนระทวย ก่อนที่จะพยายามดึงสติกลับมาและดันชายคนรักออกไปช้าๆ
“แต่ถ้าพี่ไปรายงานตัวช้า...นางอาจจะมาตามฆ่าเราได้นะ”
ชายหนุ่มถอยออกมาเล็กน้อย
“ที่เจ้าพูดนั้นถูกต้อง.. แต่.. เมน่าเมียรัก..
ดูสิ.. ดูนี้สิ..” เขาสะกิดไหล่เธอเบาๆ
หญิงสาวก้มหน้าเขินอายและยิ้มอย่างสาวแรกรุ่น – “ท่านพี่อย่ายอกกัน ข้ารู้หรอกว่าอะไร..”
“เจ้าจะปล่อยไว้อย่างนี้จริงหรือ...
ที่รักของข้า..” เมฟ
พูดและควักไอ้หนูของตัวเองซึ่งแข็งโด่ชี้ออกมา
ถูไล่ไปตามไหล่และหลังเปลือยเปล่าของ เมน่า ซึ่งกำลังบิดม้วนไปมา “นะจ๊ะ นะจ๊ะ
ผัวของเจ้าไม่เคยได้ใช้มันกับใครเลยตั้งแต่เกิดมา.. เจ้าจะไม่ให้รางวัลมันหน่อยหรือ.นะจ๊ะ..”
“พี่ก็..” เมน่าเอ่ยขึ้นมาเบาๆ
“ทุกค่ำก่อนจะเข้านอน
ท่านก็ส่งข้าเข้านอนด้วยแท่งนั้นตลอดอยู่แล้วนี้ คืนนี้ก็เช่นกันใช่ไหมละจ๊ะ..”
“โถ่ เมน่าของพี่ ถ้าอย่างนั้น..
เจ้าช่วยให้ปากอวบอิ่มงามๆนั้นของเจ้า ช่วยให้พี่ได้ผ่อนคลายได้ไหมจ๊ะ” เมฟร้องขอต่อไปอย่างไม่ละความพยายาม จน เมน่า
ผ่อนปรนลง – “แค่ปากนะจ๊ะ.. ท่านต้องรีบอย่าลืมข้อนี้ด้วยล่ะ” แล้วเธอก็หันมาประจันหน้ากับ ท่อนเนื้อของสามี “ท่านคงจะมีอารมณ์มาก..”
“จ๊ะ..ช่วยพี่หน่อยนะจ๊ะเมีย”
เมน่ายิ้มและค่อยๆใช้ปลายลิ้นแตะที่บริเวณส่วนหัวของท่อนเอ็นเบาๆ
ตวัดชิมน้ำเหนียวๆซึ่งชุ่มอยู่ที่ปลายๆอย่างชำนาญ
แม้ภายนอกจะดูเป็นสาวเรียบร้อยแต่ความเป็นจริงแล้ว
ฝีไม้ลายมือการร่วมรักของเมน่านั้นไม่เป็นสองรองใครเลย –
เธอค่อยๆประกบริมฝีปากเข้าที่หัวเห็ดรูดอมช้าๆพลางสบตาชายคนรักซึ่งกำลังหลับพริ้มเคลิบเคลิ้มไปกับบริการพิเศษอยู่..
เมฟกดหัวเมน่าเข้ามาเบาๆอย่างทะนุทนอม
ก่อนที่เธอจะดันปากของตัวเองเพื่อรับเอากล้วยหอมของชายหนุ่มเข้ามาจนแท่ง..
ดูดเข้าดูดออก ม๊วฟ..จ๊วบ...จ๊วบ..
จนน้ำหล่อลื่นจากท่อนสวาทนั้นไหลเยิ้มออกมาเปรอะเปื้อนอยู่รอบๆริมฝีปากของเธอเหมือนกับเด็กที่กินขนมหวานอย่างไม่ระมัดระวัง
“อ๊า ซี้ด... เมียจ๋า...อื้ม... ซี้ด...” เมฟ ครางในลำคอเบาๆและลูบผมนุ่มสลวยของเมียสาว
ทั้งคู่ต่างสบตากันอย่างรู้ใจ ก่อนที่ภรรยาคนสวยจะเริ่มเครื่องติดขึ้นมาบ้าง..
เธอดูดรับชักไอ้จ้อนของเขาเข้าออกปากเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนต้นขาของเขาเกร็งแขนไปหมด..
แก้มของเมน่าตอบรับกับท่อนเนื้อในปากจนเห็นเป็นลำที่แก้ม
สายตาของเธอไม่เคยละไปจากชายคนรักเลย
สิ่งที่เธอทำให้เขานั้นทำมาจากใจด้วยความรักมากกว่าความใคร่
หญิงสาวเร่งจังหวะขึ้นไปอีก – “ซี้ดดดดด...
พี่จะออกแล้วจ๊ะ.....เมียจ๋า....พี่จะออกแล้ว.....ซี้ดดด อูยยยย...”
เขากดหัวเธอเข้าไปแน่นอย่างไม่รู้ตัวก่อนที่จะปล่อยน้ำข้นขาวแห่งความใคร่ผสมกับความรักออกมา
พรวด..
มันไหลออกมาจากปากกระบอกพุ่งเข้ามาจนท่วมในช่องปากของเมน่า... – เธอยังไม่ถอนปากออกมากลับรับเอาน้ำหวานนั้นไว้และเงยหน้าขึ้นสบตากับเขา
พลางดูดท่อนเอ็นซึ่งยังคงกระตุกอยู่อย่างตั้งอกตั้งใจ
ลิ้นอ่อนละมุนดุนอยู่ที่เส้นสองสลึง “สุดยอดเลยยยย
ซี้ดดดดดด พี่มีความสุขมากจ๊ะ...ซี้ดดด.”
เมฟค่อยๆดึงไอ้หนูของตัวเองออกมาจากปากของเมียสาวอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้ผลงานของทั้งคู่นั้นกระชอกออกมา
– เมน่า อ้าปากให้เมฟดูบรรดาอสุจิซึ่งไหลวนอยู่ในปากของเธอ
ก่อนที่จะกลืนมันลงคอเข้าไปทั้งหมดในคราวเดียว
เธอใช้นิ้วปาดส่วนที่เกินออกมาเละอยู่บริเวณริมฝีปากให้เข้าไปในปากและดื่มกินมันราวกับว่าเป็นของอร่อยเพื่อเอาให้สามี
“พี่ถึงได้รักเจ้าไง..” เมฟเอ่ยชมและก้มลงมาจูบเมน่าซึ่งอมยิ้มหวานๆอยู่
“ถ้าอย่างนั้นพี่ไปก่อนนะจ๊ะ..
แล้วคืนนี้เราจะกลับมา..ทำกันให้สุดๆไปเลย”
“จะรอนะจ๊ะ..”
ณ ท้องพระโรง
ศพทั้งหลายถูกขนออกไปจนหมดแล้วพร้อมด้วยการทำความสะอาดแบบหมดจดไม่เหลือร่องรอยการสังหารหมู่ให้เห็นเลยแม้แต่รอยเดียว
เอวากำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ซึ่งเจ้าเมืองคนก่อนสมอ้างว่าเป็นบัลลังก์ เอาขาขึ้นมาวางพาดไว้บนแขนพักเก้าอี้และเอนหลังลงไปบนแขนพักอีกข้างหนึ่งด้วยท่าทางเบื่อหน่าย
ชุดเกราะเหล็กและอาวุธถูกปลดกองไว้ที่พื้นอย่างไม่เป็นระเบียบ
มีชาวบ้านมาแสดงความจงรักภักดีมากมาย
แต่เธอก็ไม่ได้สนใจมากนัก กลับยกให้เป็นหน้าที่ของเซอร์ทั้ง4ให้เป็นคนรับเรื่องแทน
ส่วนตนนั้นก็บ่นออดแอดอยู่บนเก้าอี้
พลางสั่งให้ตกแต่งห้องนี้ใหม่ชนิดที่ว่าไม่เหลือเคล้าเดิมเลย
“เซอร์ไกอา...”
เธอเอ่ยเรียกชื่อด้วยเสียงเบื่อๆ
“ครับ นายหญิง..” อัศวินหนุ่มขานรับและตรงมาหาเธอทันที
“อีกนานไหม..ข้าชักจะหน่ายกับพิธีการนี้แล้ว..”
“เกรงว่า คงจะถึงมืดค่ำนั้นแหละครับ นายหญิง”
คำตอบของชายหนุ่มทำให้เธอถึงกับต้องถอนหายใจออกมา
–“สาบานต่อพระเจ้า ข้าเป็นนักรบไม่ใช่นักปกครอง
นี้มันไม่เหมาะกับข้าเลย ลงเป็นแบบนี้ส่งข้าไปในสมรภูมิยังจะดีกว่า..”
เซอร์ไกอายิ้ม
คำนับ และเดินออกมาทำหน้าที่ของตนต่อ
ผู้คนยังคงหลั่งไหลเข้ามาเรื่อยๆ
เอวา-ร่า แทบจะไม่สนใจใครทั้งนั้นเลย เธอเอาแต่จ้องมองไปที่ธงและรูปของตนซึ่งถูกนำขึ้นไปตกแต่งแทนสัญลักษณ์แปลกๆอันเก่าพลางชื่นชมซ้ำไปซ้ำมา
สลับกับมองผู้คนที่พากันเข้ามาถวายเครื่องใช้
จนในที่สุดเธอก็ไปสะดุดตาเข้ากับคนคนหนึ่ง... ซึ่งมาพร้อมกับกล่องเหล็กใบใหญ่
“เซอร์ไกอา..”
เธอขานเรียกชื่อเขาอีกครั้ง
แต่น้ำเสียงครั้งนี้เต็มไปด้วยความตื่นเต้นจนผู้ถูกเรียกเองก็พล่อยจะตื่นเต้นไปด้วย
–“ครับ นายหญิง มีอะไรให้ข้ารับใช้”
เธอชี้ให้เขาดูชายหนุ่มรูปร่างผู้นั้น
– “พาเขาหาข้า..ข้าอยากจะคุยเป็นการส่วนตัว”
อัศวินหนุ่มยิ้มอย่างมีเสน่ห์อีกครั้ง
“ถ้านั้นจะทำให้ท่านมีความสุขและหยุดบ่นถึงอาการหน่ายนี้ได้” เขาคำนับและตรงไปหาชายหนุ่มผู้นั้นทันที
เอวา-ร่า
นั่งรออยู่บนเก้าอี้อย่างมีชีวิตชีวามากขึ้น พลางจัดแต่งทรงผมให้ดูเรียบร้อยขึ้น
ปรับเปลี่ยนท่านั่งให้ดูสง่ากว่าเดิม –
และเมื่อชายหนุ่มผู้นั้นเดินเข้ามาหาเธอด้วยท่าทีกล้าๆกลัวๆ
เธอก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้และตรงเข้าไปหาเขาทันที ใบหน้ายิ้มแย้มอย่างเป็นมิตร
กิริยาท่าทีนั้นอ่อนโยนขึ้นมอย่างน่าแปลกใจ
“ท่าน...ท่านแม่ทัพ..เอวา-ร่า... ข้า...
ข้า...ขะ...” เขาคุกเข่าลงและพูดด้วยเสียงตะกุกกัก
ก้มหน้าลงมองพื้นราวกับว่ามีทองก้อนใหญ่ตกอยู่ –
เอวาก้มลงช้าๆจับไหล่เขาไว้พยุงให้ยืนขึ้น
“เรียกข้าว่า เอวา เถิดท่าน.. คำว่าแม่ทัพใช้ในการศึกเท่านั้น
บัดนี้เมืองสงบลงแล้วข้าเป็นเพียงหญิงสาวธรรมดาเท่านั้น” – แม้เธอจะพูดถ่อมตัวเพียงใดแล้วก็ตาม
แต่ชายหนุ่มตรงหน้าก็ยังคงแข็งนิ่งอยู่อย่างนั้น
“มิได้ครับ...ข้ามิบังอาจกับท่าน...”เขาเอ่ยขึ้นมา – เอวาจึงคุกเข่าลงในเสมอกับเขา
พร้อมทั้งพยายามจะสบตาเขาให้ได้ – “ท่านรู้จักข้าแล้ว..
แต่ข้ายังไม่รู้จักท่านเลย..ท่านชื่ออะไรกันหรือ?” เธอถาม
“ข้าชื่อ... โมฟาเลส บาร์เดอร์ ครับ ท่านหญิง..
บุตรแห่ง โมสาร์ ช่างทำรองเท้า ผู้ต่ำต้อยครับ นายหญิง..” เขารีบตอบกลับมาอย่างเจียมเนื้อเจียมตัว
เอวาได้ยินดังนั้นจึงแสร้งพูดออกมาด้วยน้ำเสียงน้อยอกน้อยใจ “ต่ำต้อย?
ท่านเอาสิ่งใดมาเปรียบกัน ท่านโมฟาเลส
ข้ามิได้สวมเกราะอยู่เป็นเพียงแค่อิสตรีที่อยากจะพูดคุยกับชายหนุ่ม ใยท่านต้องอ้าง
ฐานันดร มาเกี่ยงกันด้วย หรือเพียงเพราะรูปข้าไม่งดงามดังสตรีทั่วไป หรือตัวท่านรังเกียจที่ข้าจับดาบ
ข้าคงจะไม่คู่ควรสำหรับท่านกระมั้ง”
“มิได้ครับ มิได้.. ท่านหญิงสูงส่ง..
มีเกียรติเกินกว่าข้า..ข้ามิบังอาจ..”
“งั้นก็ให้เกียรติข้าหน่อยสิ โมฟาเลส..”
เอวาเผยรอยยิ้มจริงใจออกมาให้เขาได้เห็นอย่างชัดเจน “ให้เกียรติไปดื่มไวน์กับข้า แล้วพูดคุยเรื่องเมือง เอร่อน
กับข้าหน่อยจะได้ไหม ข้าพึ่งจะเคยมาครั้งแรกใคร่จะรู้วัฒนธรรมยิ่งนักของเมืองแห่งนี้ยิ่งนัก”
“จะดีเหรอครับท่านหญิง...” เอวาขยับสายตาเล็กน้อยจนชายหนุ่มต้องตอบตกลง “ขะ..ครับท่าน.. กรุณาด้วยครับ”
“เช่นนั้นแล้วตามข้ามาเถอะ ท่านโมฟาเลส..ว่าแต่ท่านมีชื่อเรียกสั้นๆไหม
ข้าอยากจะรู้สึกคุ้นเคยกับเธอให้มากกว่านี้ ท่านเรียกข้าว่า เอวา จะดีกว่านะ
ข้าไม่อยากถือพิธีมากเวลาดื่มกิน.”
“ข้า...เอ่ย... ถ้าท่านหญิง...เอ่อ.. ถ้า
ท่านเอวา..จะกรุณา เรียกข้าว่า.. เมฟ ก็ได้ครับ…”
เอวาฝากฝังให้เซอร์ไกอาดูแลงานในส่วนของเธอต่อ
ส่วนเธอนั้นพา เมฟ เข้าไปที่ห้องด้านหลังซึ่งเป็นห้องรับรองของแขกของเมือง –
มันเป็นห้องกว้างที่มีโต๊ะยาวขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางห้อง
รอบๆห้องล้อมรอบไปด้วยสรรพอาหารและเครื่องดื่มชั้นดี เมฟ
ตื่นตาตื่นใจไม่น้อยเพราะตลอดชีวิตของเขานั้นแทบจะไม่เคยสัมผัสกับความหรูหราระดับนี้เลย
เอวา-ร่า สังเกตว่าชายหนุ่มนั้นจ้องมองไวน์แดงสูตรขึ้นชื่อของเมืองไมรินเป็นพิเศษ
เธอจึงเลือกขวดนั้นมา จัดแจงรินใส่แก้วและส่งให้กับเขาแบบมือต่อมือ
ทำเอาชายหนุ่มผู้ด้อยศักดิ์ถึงกับทำตัวไม่ถูกเลยทีเดียว
“ขอบพระคุณครับ คุณผู้หญิง ขอบพระคุณ..” เขาก้มหัวและรับมาอย่างเกรงอกเกรงใจ – เอวา-ร่า
รั้งแก้วไว้ก่อนยังไม่ยอมปล่อย พลางทำสีหน้าไม่พอใจใส่เขา
จนเมฟต้องเปลี่ยนวิธีการเรียกชื่อเธอ “ขะ..ขอบคุณนะครับ..
เอวา”
“ท่านเป็นแขก วางตัวให้สมกับเป็นแขกหน่อย เมฟ..” เธอเอ่ยทวนพร้อมทั้งจิบไวน์ของตนจากแก้วก้านที่หลอมขึ้นมาอย่างดี
– ทั้งสองนั่งอยู่ที่เก้าอี้โซฟาซึ่งอยู่ที่มุมมอง
โดยเวลาปกติแล้วมันจะเป็นพื้นที่ส่วนตัวสำหรับบุคคลสำหรับซึ่งเป็นแขกของเมือง – “ไหนลองเล่าเรื่องของท่านมาสิ..”
เมฟเริ่มเล่าเรื่องของตน
ซึ่งความจริงแล้ว เอวา ฟังไปได้เพียงนาทีกว่าๆก็เบื่อจนแทบอยากจะหลับแล้ว
แต่เธอต้องแสร้งทำเป็นตื่นเต้นกับเรื่องราวเหล่านั้นไปก่อน อย่างไรก็ตาม เมฟ
ก็ยังไม่ได้เล่าเรื่องของ เมน่า ภรรยาสาวสวยของตน –
เขาดื่มไวน์ไปประมาณครึ่งขวดจนหน้าเริ่มแดงก่ำ ดวงตาเริ่มแฉะเยิ้มตก
คำพูดคำจาเริ่มสบายและฟังง่ายขึ้น ความตื่นเต้นน่าจะหายไปพอสมควรแล้ว
ในขณะที่เอวานั้นยังพอแค่ กรึ่มๆ เธออาศัยโอกาสนี้ค่อยๆขยับเข้าไปใกล้ๆเขาเรื่อยๆ
ชายหนุ่มก็บ่ายเบี่ยงไปตามประสาคนยศต่ำ
“ท่านทำรองเท้าทุกวัน...ไม่เบื่อบ้างหรือไง?”เอวา
แกล้งดัดเสียงลากๆแบบคนเมาๆพร้อมทั้งเดินไปหยิบไวน์มาเปิดอีกขวด เธอเดินส่ายสะโพกบอบบางโดยจงใจให้เขาเห็นชัดเจน
ชายหนุ่มแอบมองตามสัญชาตญาณของผู้ชายก่อนที่จะรีบเก็บสายตาเมื่อหญิงสาวเดินตรงเข้ามารินไวน์ให้เธอต่อ
“ข้าก็...เพื่อประทังชีวิตแหละครับ...ฮะๆ...
ข้าคิดว่า... เราอาจจะดื่มมากเกินไปแล้ว...เอ่อ... เอวา...นี้ท่าน...” เมฟ พิงหลังเก้าอี้แนบจนสนิท เมื่อ เอวา
ซึ่งเขาเข้าใจว่าจะเดินมาเติมไวน์ให้เขานั้น จู่ๆก็นั่งลงบนตักของเขาอย่างซะนั้น –
เธอยกขาทั้งสองขึ้นมาไขว้ห้างและนั่งหันข้างให้กับเขา แขนคล้องคอไว้
ยื่นใบหน้าเขาไปใกล้ๆกับใบหู ปล่อยลมหายใจเบาๆให้ความเสียวซ่านไหลผ่านไปช้าๆชวนสยิว..
“ข้ากำลัง...สงสัยว่า...” เธอกระซิบเบาๆ
ชายหนุ่มนั่งตัวแข็งเกร็งยิ่งกว่าตอนแรกเสียอีก “ท่านอยากจะ...ขึ้นไปส่งข้า...บอกห้องไหม... ข้า
ชักจะ...มึนๆ..แล้วล่ะ...” ปากกระซิบพลาง มือก็ไล้ไปตามหน้าอกของเขาไปพลาง “อืม...แข็งจัง ท่าทางท่านจะแรงดีใช่เล่นนะ...”
“ท่านเอวาครับ
ข้าเกรงว่าจะไม่เหมาะนะครับ...ท่านเอวา..ตรงนั้นคงไม่ดีครับ อูย... ท่านครับ...” เมฟ พยายามจะปัดเธอด้วยคำสุภาพ
แต่ดูเหมือนว่าหญิงสาวจะไม่ฟังเขาเลย เธอล้วงมือรุกล้ำเข้าไปในกางเกงของเขา
จับงูน้อยซึ่งกำลังหลับใหลอยู่ในกางเกงคลึงบีบเล่นไปมา
และสบตาเขาอย่างทะลึ่งทะเล้น
“ไอ้จ้อนของเจ้า...คงจะใหญ่กว่าของม้าศึกอีก...เคยได้ใช้งานมันบ้างหรือเปล่า..” เป็นคำถามที่ชวนให้ชายหนุ่มอึดอัดสิ้นดี
เขาพยายามจะดันเธอให้ลงไปจากตักของเขาและเบี่ยงประเด็นด้วยการเล่าเรื่องอื่น – “ท่าน เอวา เดินทางมาเหนื่อย
ไม่ทราบว่าท่านอยากจะได้...”
“ข้า...อยากจะให้เจ้า...ขึ้นไปบนห้องกับข้า...
แล้วมาเย็ดข้าให้อาณาจักรล่มสลายไปเลย นี้ล่ะ..ที่ข้าต้องการในตอนนี้แบบไม่อ้อมค้อม...”
เธอพูดออกมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่นพร้อมทั้งใช้ลิ้นเลียที่ซอกคอของเขาเบาๆ..
เมฟหนีบคอขึ้นด้วยความเสียว – ใจจริงนั้นเขาเองก็ไม่อยากจะปฏิเสธเธอเหมือนกัน
สาวงามมาให้ท่าถึงขนาดนี้แล้ว เป็นชายฉกรรจ์ปูนนี้จะยอมได้อย่างไร
ทว่าภาพวันคืนแห่งความสุขระหว่างเขาและ เมน่า
ก็ได้ผุดขึ้นมาคั่นกลางอารมณ์ใคร่สวาทอย่างน่าอัศจรรย์
ชายหนุ่มจึงตัดสินใจพูดประโยคที่จะทำให้เขาดูเป็นคนโง่เง่าให้หมู่ชายชาตรีด้วยกันออกไป
“คือ..ข้า... มีภรรยาแล้วครับ..ท่านเอวา...” เขาเอ่ยขึ้นมาด้วยเสียงหนักแน่นและสะกดอารมณ์สยิวที่ต้นคอไว้
– เอวา-ร่า ชะงักทันทีเมื่อได้ยินประโยคดังกล่าว เธอค่อยๆถอนมือออกมาช้าๆ
มองเข้าไปในสายตาอันหนักแน่นของเขาด้วยความประหลาดใจ – “งั้นรึ..”
เธอเอ่ยขึ้นมาเบาๆ “ข้าขอโทษด้วย..” และลุกขึ้นมาจากตักของเขาทันที
“ไม่ใช่อย่างนั้นครับท่าน...คือว่า..”
“ถ้าอย่างนั้นข้าคงจะทำให้เจ้าลำบากใจไม่ใช่น้อยเลยสินะ..
โมฟาเลส”
บทสนทนาที่เคยหรรษาและเป็นกันเองกลับกลายเป็นกดดันและแบ่งแยก
ฐานันดร อย่างชัดเจนทันที – เมฟ รีบลุกออกจากเก้าอี้และลงไปคุกเข่าทันที
เมื่อสีหน้าของเพื่อนดื่มตรงหน้านั้นเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
“ขออภัยด้วยครับ... ท่านแม่ทัพ..ขออภัยจริงๆครับ..”
“ลุกขึ้นเถอะ.. เจ้าไม่ผิดอะไรหรอก โมฟาเลส
ข้าเองต่างหากที่ไม่ได้ไต่ถาม.. ถ้าเป็นเช่นนี้แล้ว
เรื่องระหว่างเราเมื่อครู่เจ้าช่วยลืมๆมันไปก็แล้วกันนะ.. และข้าต้องขออภัยในอากัปล่วงเกินเมื่อครู่ด้วย”
แล้วเอวาก็คุกเข่าลงแสดงความรู้สึกผิดต่อ
เมฟ –
ชายหนุ่มหันซ้ายหันขวาลุกลี้ลุกลนด้วยอาการสับสนพลางพยายามก้มลงไปประคองนางให้ลุกขึ้นมา
เนื่องด้วยความไม่สมควรในยศฐาเวลานี้ –“ลุกเถอะท่าน
ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง”
“หากท่านยังไม่รังเกียจกัน..” เอวาเอ่ยขึ้นเบาๆ
พร้อมทั้งลุกขึ้นไปหยิบไวน์ขวดนึ่งซึ่งห่อด้วยผ้าฝ้ายชั้นดีราคาบ่งบอกถึงระดับชั้นสูงของไวน์ขวดนี้
“โปรดจงรับคำขอโทษจากข้าไปเถอะ.. ในนามของกองทัพ ภรรยาของเจ้าจะต้องดีใจแน่ๆ”
“เอ่อ..ข้าคงจะ...ขะ..ขอบคุณครับท่าน.. ขอบคุณ..” ชายหนุ่มรับมาแบบตะกุกตะกักท่าทีของเขาอึดอัดยิ่งกว่าสิ่งใด
“เสร็จธุระกันแล้ว เจ้ากลับไปหาเมียของเจ้าเถิด..
ข้าจะได้ว่าราชการต่อ ขอโทษที่ทำให้เจ้าต้องมาเสียเวลาด้วย”
สำหรับเมฟแล้วมันเหมือนเสียงระฆังจากสวรรค์
เมื่อจะได้ออกไปจากสถานการณ์อันน่าอึดอัดนี้เสียที – เขากอดไวน์ขวดนั้นแนบหน้าอกไว้และก้มลงทำตามเคารพ
เอวา-ร่า ก่อนที่จะรีบเดินออกจากห้องนั้นไป กลับสู่ถิ่นฐานสามัญชนของเขา เอวา
มองตามผู้จากไปด้วยสายนิ่งขรึมพลางจิบไวน์แก้มผลเชอรี่
“เซอร์อาทูร่า มีความเห็นว่าอย่างไร..”
นางพูดขึ้นมาลอยในขณะที่สายตายังคงจ้องอยู่ที่ประตู – เซอร์อาทูร่า.. เดินออกมาจากมุมกำแพงทางด้านขวามือ
กัดแอปเปิ้ลสีเขียวอย่างใจเย็น ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
“ภรรยาของเขา สวยเอาการทีเดียว.. ชื่อของนางคือ
เมน่า บาร์เดอร์ สกุลเดิม บอร์ ”
“บอร์?
บาร์เดอร์? สกุลไม่เป็นที่รู้จักมักจี่ ฐานันดร
คงจะต่ำจริงๆสินะ”
“ใช่ครับนายหญิง
ทั้งสองตระกูลเป็นเพียงครอบครัวเล็กๆ บาร์เดอร์ทำรองเท้า ส่วนบอร์ทำขนมปัง..ทั้งสองตระกูลผูกพันแน่นแฟ้นกันมาแบบรุ่นต่อรุ่น
ไม่แปลกเลยที่เขาจะซื่อสัตย์ต่อภรรยา”
“อืม.. ขอบคุณที่ไปสืบมาให้อย่างรวดเร็ว..” เอวาวางแก้มลง ยิ้มออกที่มุมปากเล็กน้อย “บอกเซอร์ไกอา
ว่าข้าจะเข้าห้องสมุดของที่นี้ซะหน่อย อาจจะนอนที่นั้นเลย
ข้าอยากจะศึกษาเกี่ยวกับเมือง เอร่อน เสียหน่อย อ๋อ..
แล้วเจ้าก็เตรียมตัวให้พร้อมด้วยล่ะ.. ข้ามีแผนสนุกเตรียมไว้สำหรับเจ้าแล้ว”
“แล้วแต่ท่านจะบัญชา ข้าผู้นี้น้อมรับอยู่เสมอ...”
เมฟ กลับไปที่บ้านของตนด้วยอาการสับสนในหัวใจ
ภรรยานามเมน่านั้นรูปโฉมและรูปร่างงดงามเกินกว่าหญิงใดก็จริง แต่แม่ทัพเอวา-ร่า ก็ทรงเสน่ห์ไม่แพ้สตรีอื่นเช่นกัน
แถมนางยังทำท่าทีมีใจให้กับเขาอีกด้วย
ชายหนุ่มพยายามจะสลัดความคิดบ้าๆเหล่านั้นให้พ้นไปจากหัวเสีย – ฐานันดร มันต่างกันเกินไป..
ตกกลางคืนทั้งคู่นอนคุยกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้นมาในวันนี้
เมฟไม่ได้เล่าเรื่องที่ เอวา-ร่า อยากมีอะไรกับเขาด้วยให้เธอฟัง –
เขาพร่ำแต่บอกให้เมียรักฟังว่า แม่ทัพหญิง ผู้แข็งแกร่งผู้นี้เป็นคนถ่อมตนเยี่ยงไร
“เขาดูไม่เลวร้ายดังคำร่ำลือเลยนะ”
ชายหนุ่มพูดขึ้นมาในอ้อมแขนของเขาคือศีรษะหอมละมุนของภรรยา
ทั้งคู่กำลังนอนเปลือยกายกันอยู่ ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก
เป็นธรรมเนียมปฏิบัติเพื่อไม่ให้เกิดความเขินอายระหว่างสามีภรรยาของเมือง เอร่อน
อยู่แล้ว
“ข้าก็กังวลแทบแย่เห็นท่านพี่กลับช้า..” เมน่า พูดขึ้นมาเบาๆ “แต่หอกของท่าน...ทิ่มหลังข้าอยู่นะท่านพี่..”
เมฟไม่ตอบอะไรแกล้งเอาไอ้หนูซึ่งแข็งตัวได้ทีแล้วถูไปมาที่แก้มก้นของเมน่า
– “ตามสัญญาไงเมียรัก”
เขาสอดมือเข้าไปคลึงเต้านมของเธอบีบรวบเบาๆ
พลางไซร้ซอกคอเพื่อเรียกอารมณ์ –หญิงสาวไม่เหนี่ยมอายเมื่ออยู่บนเตียงกับผัว
เธอครางเบาๆในลำคอพร้อมทั้งใช้นิ้วของตัวเอง เขี่ยที่เม็ดบัวกระสันเพื่อปลุก
“ซี้ด... อื้มมม พี่ขา...” เมน่า ยั่วยวนผัวรักด้วยเสียงครางกระเส่า
“พี่รอเวลานี้มาทั้งวันแล้วจ๊ะ..”เมฟ กระซิบข้างหูเบาๆ พร้อมยกขาซ้ายของ เมน่า
ขึ้น – สอดท่อนเอ็นขนาดกว่า7นิ้ว
ยัดเข้าไปในร่องสวาทชุ่มชื้นของเมียรวดเดียวทั้งแท่ง
“อ๊า.. พี่จ๋า.. ใหญ่จริงๆ.. อื้มมม อ๊างงง” สาวน้อยครางออกมาและหันไปจูบกับผัว “จ๊วฟฟ.. อื้มม....จ๊วฟฟ”
เมฟดันเอวเข้าหาเธอช้าๆ
ใช้มืออีกข้างที่ว่างอยู่เขี่ยหัวนมเล่น ปากยังคงประกบกันอยู่แลกอารมณ์กันอย่างดูดดื่ม
– “ทำแรงๆสิจ๊ะ พี่..อูยย...อ่ะ..อ๊าง...” เมน่ากระซิบเบาๆ ชายหนุ่มจัดให้ตามคำขอ
เขากระแทกลำเนื้อเข้าไปจนมิดสุดชนกับผนังด้านใน
หญิงสาวถึงกับอ้าปากค้างและหอบเสียงออกมาจากลำคอขอ เท่านั้นยังไม่พอ
เมฟค่อยๆถอนๆมันออกมาช้าๆและกระทุ้งเข้าไปใหม่..
“ชอบไหมจ๊ะ..เมียจ๋า..ชอบไหม...” เขาถามพร้อมจูบไล่ไปตามซอกคอของเธอ—
เมน่าหันมาพยักหน้าและหลับตาลงช้าๆ
ปล่อยให้ผัวจอมหื่นได้กระแทกเธอจากด้านหลังต่อไป.”ข้ารักท่าน..อร๊าง ท่านพี่..อ๊ะ...ข้ารัก..ท่าน.. อ๊ะ อ๊ะ ซี้ดดด
อื้มมม”
“ข้าก็รักเจ้า เมียรักของข้า...“ เมฟตอบกลับไป
และปล่อยขาของเธอลงถอนอาวุธออกมาจากช่องรักน้ำสวาทไหลเยิ้มตามมาหยดลงบนเตียง
ชายหนุ่มจับหญิงสาวเปลี่ยนตำแหน่งมาเล่นเป็นท่าหมาซึ่งเป็นท่าโปรดปรานของเธอ.. –
เมน่าหันมามองเมฟด้วยสายตาอ้อนวอน
เผยอริมฝีปากขึ้นเล็กน้อยเป็นการยั่วสวาทเร้าอารมณ์ผัว – “ช่างรู้ใจเมียเสียยิ่งกว่า...อร๊างงง.. อื้มมมม
ซี้ดดด... ท่านพี่....อื้มมมม ซี้ดดด อ๊ะ..อ๊ะ... ลึกจัง... อื้มมมม อื้มมมม”
ชายหนุ่มผู้มากไปด้วยแรงขับทางเพศไม่พูดพร่ำทำเพลง
เขาจับบั้นท้ายทรงอวบของเมียไว้และกระแทกท่อนลึงค์เข้าไปจนสุด..กระแทกเข้ากระแทกออก
จนเข่าของเธอที่ดันไว้กับที่นอนนั้นทรุดลงไป – “ชอบไหมจ๊ะเมียจ๋า..อื้มมม ชอบใหม่..
พี่เสียวที่ปลายแท่งสุดๆไปเลย...อื้มมมม”
เมน่าส่ายหน้าไปมาด้วยความเสียว
เธอหันไปมองคนรักเป็นระยะก็พบว่าสายตาของชายหนุ่มที่มองมานั้นช่างอ่อนโยนเหลือกัน –
เขาเอี้ยวตัวลงมาหาเธอและแลกจูบกันอย่างดูดดื่มในขณะที่เอวของเขาก็ยังคงกระแทกเข้ามาอยู่อย่างไม่หยุดพัก
เต้านมทั้งสองของเธอส่ายไปมาราวกับลูกโป่งน้ำจนผัวต้องเข้ามาประคองเค้นไว้
ทวีคูณความเสียวเข้าไปใหญ่
“ซี้ดดด... ผัวขา...กระแทกแรงๆเลย....
ผัวขา....เมียใกล้แล้ว...อื้มมมม ....อี้ยยยย” สาวน้อยมิอาจอดกลั้นได้อีกต่อไป
เธอก้มหน้าแนบลงไปกับหมอนกรีดร้องออกมาไม่เป็นภาษมนุษย์
เมฟเห็นเช่นนั้นก็ไม่รอช้าๆ
ยกสะโพกของเมียขึ้นเล็กน้อยและกระทุ้งท่อนเนื้อเข้าไปหนักๆรัวๆ จนในที่สุด—
เธอก็มิอาจจะทนได้อีกต่อไป
“อร๊างงงงงงงง....อร๊างงงงงงง ซี้ดดดดดดดดด....
อร๊างงงงงงงงงงง....” สุดเสียงสวาทดังลั่นหญิงสาวก็ทิ้งตัวลงนอนตัวสั่นเกร็งทันที
– ชายหนุ่มมองผลงานของตนด้วยความพึ่งพอใจ เขาไม่เปิดโอกาสให้เธอได้หยุดพักต่อ
ตรงเข้าไปจับขาทั้งสองของเมียขึ้นพาดบ่าและสอดไอ้หนูซึ่งยังไม่อ่อนตัวเข้าทำศึกต่อทันที
“ซี้ดดด ท่านพี่...อี้ยยยย” เอวของเมน่ายังคงกระตุกจากอาการเสร็จอยู่
เธอกอดผัวไว้แน่นและเปล่งเสียงร้องออกมาดังลั่น – “เมียจ๋า...เดี๋ยวข้างบ้านเขาก็รู้กันหรอก..”
ชายหนุ่มกระซิบบอกในขณะที่ปากของเขากำลังวุ่นวายอยู่กับหัวนมของเธอ
“ก็...อื้มมมม อื้มมมม... ก็ให้รู้กันทั่ว ซี้ดดด..
ว่าผัวข้า....ร่วมรักได้ถึงใจเพียงใด อร๊างงง” เมน่าเอ่ยออกมาตามอารมณ์
“ข้าเป็นของท่าน อร๊างงงง อร๊างงงงง ซี้ดดดดดด”
ชายหนุ่มยิ้มรับเมื่อเมียสาวนั้นร่านได้ที่
เขาหลับตาด้วยความเสียวพร้อมทั้งเงยหน้าขึ้นมองไปที่เพดานบ้านชั่วขณะ
ก่อนที่จะหันกลับมาสบตากับเมียซึ่งกำลังนอนส่ายหน้าครางไปมาอย่างบ้าคลั่ง –
ชายหนุ่มไม่ได้มองเห็นเมียตัวเองอยู่ตรงหน้า... ใบหน้าของ เมน่า บาร์เดอร์
ภรรยาของตน กลับกลายเป็น ใบหน้าคมเข้มของแม่ทัพ เอวา-ร่า ทอตต์ แทน...— แม่ทัพสาวขบริมฝีปากขึ้นหลับตาซ้ายไว้และกระซิบบอกชายตรงหน้าเบาๆด้วยเสียงเย้ายวน “ไอ้นั้นของเจ้า... อื้มมม...
มันใหญ่ยิ่งกว่าของม้าเสียจริง โมฟาเลส...”
เมฟสะดุ้งเล็กน้อยกับภาพตรงหน้า
แต่ด้วยอารมณ์และบรรยากาศแห่งความเสียวที่กำลังดำเนินไปได้อย่างเข้าโอกาส
ชายหนุ่มไม่สนหน้าสนหลังอีกต่อไปแล้ว เขารวบขาหญิงสาวตรงหน้าที่เห็นเป็นแม่ทัพหญิงไว้ด้วยแขนข้างเดียว
จัดการกระแทกท่อนสวรรค์รักจนน้ำจากสวนสาวกระชอกออกมา –“ซี้ดดด..ท่านแม่ทัพ....ซี้ดดด...อ่า...ท่านผู้หญิง..ข้าไม่ไหวแล้ว..” เขางึมงำเบาๆในลำคอ.
ก่อนที่จะชักหัวเห็ดซึ่งบานเปล่งได้ทีออกมาระเบิดน้ำกามขาวข้นลงบนท้องของเธอ..
ปี๊ด... น้ำรักจากแท่งชายพุ่งไกลจนถึงต้นคอของหญิงสาวทีเดียวปริมาณของมันก็มากโขกว่าครึ่งแก้วไวน์
– เมฟลืมตาขึ้นมาและกลับมาอยู่กับความเป็นจริง
ความจริงที่ว่าเขากำลังร่วมรักกับเมียอยู่...
“ซี้ดดด ออกมาเยอะเลย..”ชายหนุ่มพูดพลางสะบัดท่อนเนื้อไปมาให้น้ำออกหมด
และเอามันขึ้นไปให้ เมน่า ดูดเลียน้ำส่วนที่ตกค้างอยู่ – “อ๊า... อย่างนั้นแหละจ๊ะเมียจ๋า..” เขาลูบผมเธอเบาๆในขณะที่เธอกำลังงับท่อนเนื้อของเขาเข้าไปในปาก..
พลางจิตนาการถึง... เอวา-ร่า แม่ทัพสาวผู้ทรงเสน่ห์
หลังจากที่เสร็จกิจกามของเมฟก็พาเมน่าเข้าไปล้างตัวในห้องน้ำ
พูดคุยหยอกล้อกันตามประสาผัวเมียและพากันกลับมานอนที่เตียงเหมือนเดิม
กอดกันกลมด้วยความรักใคร่
เมน่ามีความสุขที่ผัวของเธอนั้นยังคงร่วมรักกับเธอได้อย่างถึงใจ
แม้ว่าเธอจะยังต้องการอีกก็ตามแต่ก็เข้าใจได้ว่าผัวของเธอนั้นเหนื่อยล้าจากการทำงานมาแล้ว
ส่วนเมฟนั้นแม้จะมีความสุขกับเมียดี
แต่เขาก็อดคิดถึงร่องอกขาวๆและสายตาอันเย้ายวนของเอวา-ร่าไม่ได้เลย...
เอวา-ร่า
ใช้เวลาทั้งคืนในการศึกษาประวัติและวัฒนธรรมของเมืองเอร่อน
เมื่อหน่ายจากหนังสือเธอก็จะเรียกเซอร์ไกอามาเพื่อให้เขาใช้ปากนุ่มๆขยี้ที่รูสาวของเธอจนเสร็จสม
จากนั้นก็ศึกษาต่อ
จนในที่สุดเธอก็แตกฉานในปัญหาถึงกระทั่งจำสถานที่สำคัญและผู้ปกครองคนก่อนๆของเมืองตั้งแต่ก่อตั้งได้ทั้งหมดเลยทีเดียว
– คืนนั้นเธอนอนด้วยความอ่อนเพลียและต้องตื่นเช้ามาด้วยความง่วงเหงาหาวนอน เนื่องจากเป็นระเบียบของทางราชอาณาจักรที่จะต้องแต่งตั้งแม่ทัพผู้พิชิตเป็นผู้ว่าราชการก่อนที่จะทางเมืองหลวงจะส่งผู้ปกครองมา
“แล้วเขาจะมาถึงเมื่อไหร่ล่ะ..” เธอถามด้วยเสียงงัวเงียในขณะรับประทานอาหารเช้า
วันนี้เธอแต่งหน้าตามแบบฉบับสาวชาวเมืองเอร่อนจนดูแปลกตาไป เซอร์น๊อตติ่งผู้เงียบขรึมถึงกับหลุดชมมาเลยทีเดียว
กระนั้นแล้วรอบๆขอบตาของเธอก็ยังคงคล้ำอยู่
“ประมาณ7ราตรี นายหญิง”เซอร์ไกอาตอบและหั่นเนื้อกวางแบ่งให้กับเจ้านาย
“ขอบคุณ..”เธอตอบ”แล้วเซอร์อาทูร่าล่ะ..”
“เตรียมการให้นายหญิงอยู่ขอรับ..”เซอร์ไกอาเอ่ยขึ้นพร้อมทั้งรินไวน์ให้
เขาปรนนิบัติเธออย่างดีแม้จะไม่ใช่หน้าที่ของอัศวินก็ตาม
“ดี..”หญิงสาวรับไวน์มาและดื่มช้าๆ
“ชั้นเลิศเลย... เซอร์ไกอา.. ท่านช่วยไปตาม
โมฟาเลส บาร์เดอร์ มาให้ข้าที.. เดี๋ยวนี้เลยนะ..” – อัศวินหนุ่มรับคำสั่งอย่างไม่มีข้อกังขาและออกจากห้องรับประทานอาหารไปทันที
ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเขาก็กลับมาพร้อมด้วยช่างซ่อมรองเท้าหนุ่มซึ่งมีอาการกระวนกระวายทางสีหน้าอย่างเห็นได้ชัด
สายตาของเขาดูหวาดกลัว ในใจคงจะคิดว่าตนมีความผิดอาญาเป็นแน่... – เซอร์ไกอา
ปล่อยเขาไว้ในห้องกับ เอวา พร้อมทั้งปิดประตูเงียบไว้ไม่ให้ใครรบกวน
“ท่าน...ท่านผู้หญิง..”
เขาโค้งทำความเคารพและก้มหน้าอยู่อย่างนั้นจนเธอต้องมาจับให้เขายืนตัวตรง
เนินอกซึ่งโผล่พ้นจากช่องเสื้อบางๆนั้นสัมผัสเขากับแผงอกของ เมฟ เบาๆ
จนชายหนุ่มถึงกับตัวสั่น
เขามองหญิงสาวตรงหน้าและดันไปจิตนาการถึงเหตุการณ์เมื่อคืน...
เหตุการณ์ที่เขาระเบิดน้ำกามลงบนท้องของเธอ ซึ่งคงไม่มีวันจะเกิดขึ้นจริง
“เอาอีกแล้ว ทำตัวไม่เหมาะสมกับเป็นแขกอีกแล้ว..”เอวา กล่าวและส่งแก้วไวน์ให้เขา –
เมฟรับไว้และดื่มช้าๆอย่างสำรวม “ทะ..ท่าน...
อยากให้ข้า..รับใช้อะไรหรือ...”เขาเอ่ยถามด้วยเสียงตะกุกตะกักและพยายามจะหลบตาเธอแม้ว่าความจริงแล้วในใจเขาจะรู้สึกอยากมองใบหน้าอันงดงามของเธอมากเพียงใดก็ตาม
การแต่งหน้าแบบฉบับสาวเมืองเอร่อนนั้นได้ผลเป็นอย่างดี
เอวามองเขาด้วยสายตาหว่านเสน่ห์
พร้อมทั้งปลดเสื้อลง..จนร่างเปลือยเปล่าปรากฏอยู่ต่อหน้าชายหนุ่ม..
เธอเอามือปิดหน้าอกและส่วนล่างไว้ก่อนที่จะขึ้นไปนั่งบนโต๊ะอาหาร
เอาเท้าเหยียบเก้าอี้ไว้ หันหลังมามองเขาด้วยสายตายั่วยวน – ไอ้หนูของ โมฟาเลส
แข็งขึ้นทันที ภาพตรงหน้านั้นมันช่างเกินจะบรรยายเสียจริง
“ท่านหญิง... ” เขาเอ่ยขึ้นเบาๆ
และก้มหน้า – “เจ้ารู้ธรรมเนียมนี้ไม่ใช่หรือ
เมฟ..หญิงเปลือยกาย บนโต๊ะอาหาร” เธอพูดด้วยเสียงกึ่งกระซิบ
“แต่นั้นเป็น. ไม่เหมาะกับท่านหรอก
นี้มันเป็นธรรมเนียมของนางโลมนะครับท่าน...”เขากล่าวต่อไป
เธอยิ้มรับโดยรู้อยู่แล้วว่าเขาจะพูดอะไรออกมา “ถ้าจะทำให้เจ้าไม่ปฏิเสธข้า.. ต่อให้ต้องเป็นโสเภณีราคาถูก
ข้าก็จะยอมเป็นให้เจ้า..มาเถอะ..” –
เธออ้าขาออกช้าๆ และหันตัวมาให้เขาเห็นทรวดทรงของเธอได้ชัดเจน
เมฟ
มิอาจจะหลบสายตาได้ เขาเผลอมอง หน้าอกกลึงเกลาคงขนาดกำลังดี
เอวคอดโค้งสวยหน้าท้องแบบราบไร้เนื้อนิ่มส่วนเกินและมีกล้ามเนื้อขึ้นให้เห็นเป็นล่อนบางๆ
ระหว่างขาปรากฏช่องสวาทสาวไร้ขนกลีบปิดสนิทสวยงาม
ร่างกายของนางแม้จะไม่ได้เลิศเล่อในทางกามแต่กลับงดงามยิ่งในแบบฉบับของผู้มีสุขภาพแข็งแรง
– ชายหนุ่มกลืนน้ำลายอึกใหญ่และค่อยๆ เดินเข้ามาหาแม่ทัพสาวช้าๆ
เธอสบตาเขาด้วยความพึงพอใจ และรวบผมขึ้นไว้จนเห็นใบหูชัดเจน –“แต่เจ้า...มีเมียแล้วนี้”
คำพูดของเธอทำให้เขาชะงักลงไปทันที
ปรับอารมณ์จนเกือบจะไม่ทัน – “ข้าว่ามันคงจะไม่เหมาะกระมัง” เอวา พูดขึ้นและลงจากโต๊ะสวมใส่เสื้อผ้าทันที “ข้าขอโทษด้วยที่ปล่อยให้อารมณ์ของตนนำพาไปในทางที่ไม่เหมาะสมอีกครั้ง...มาเถอะ..
ให้ข้าเดินทางไปส่งท่านที่บ้านเถอะ.. ข้าจะได้พูดคุยกับภรรยาผู้โชคดีของท่าน”
ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมากจนชายหนุ่มผู้สึกสับสน
เขาเหมือนกับปลาที่ถูกเปลี่ยนถ่ายน้ำอย่างรวดเร็ว มึนงงและต้องยอมตามน้ำไปก่อน –
เอวา ใส่เสื้อแบบชาวบ้านธรรมดาและใส่ผ้าคลุมหัวไว้เพื่อไม่ให้เป็นที่สะดุดตา
ทั้งสองเดินเข้าไปในเมืองด้วยกัน พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องของเมืองนี้ เอวา
สามารถเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเมืองนี้ได้อย่างถูกต้องราวกับว่านี้คือเมืองเกิด
จนเมฟนั้นถึงกับแปลกใจ เพราะ เอวา
นั้นรู้ลึกรู้จริงไปถึงขั้นตอนเริ่มสร้างเมืองเลยทีเดียว
“นี้แหละบ้านข้า... คือ.. อาจจะไม่เหมาะสมกับฐานะของคุณผู้หญิง
เพราะมันค่อนข้างจะแคบ..และอับมาก.. ข้าอยู่กับเมียเพียงสองคนเท่านั้น ครับ.”
เขาชี้ให้ดูบ้านสุขสันต์หันตรงหน้าพร้อมทั้งออกตัวรับไว้ก่อนถึงความไม่สะดวกสบาย –“ข้าทราบดี.. แต่หวังว่าเจ้าจะมี รากต้นทรัส(อาหารพื้นเมืองของเมืองเอร่อน)มาต้อนรับข้านะ”
ประโยคนี้ทำให้ชายหนุ่มแปลกใจอีกครั้ง
“ท่านช่างทรงปัญญา.. รู้ถึงเพียงนี้เชียว” หญิงสาวยิ้มและเดินตามต่อไป
ทั้งสองมาหยุดอยู่ที่หน้าประตู
– เมฟ เปิดประตูและเชิญให้เอวาเดินเข้าไปก่อน
แต่นางกลับสะดุดอยู่ที่หน้าประตูและหันมามองเขาด้วยความแปลกใจ “ท่านนิยมรองเท้าเหล็กด้วยหรือ ช่างน่าประหลาด
นี้ไม่ใช่ธรรมเนียมของที่นี้นี้”
ชายหนุ่มหันมามองด้วยความแปลกใจ
“ท่านผู้หญิงหมายความว่าอย่างไร?” –
เอวาดึงแขนเขามาใกล้ๆเพียงให้เห็นรองเท้าที่อยู่วางอย่างไม่เป็นระเบียบที่บริเวณใกล้ๆกับประตู
ข้างหนึ่งล้มข้างหนึ่งตั้ง ขนาดของรองเท้านั้นใหญ่กว่าเท้าของ เมฟ มาก –
มันไม่ใช่ของเขานี้ “นะ..นี้ มัน.. ไม่ใช่ของข้า..”
มีเสียงร้องของหญิงสาวดังออกมาจากทางห้องนอนของเขา..
ชายหนุ่มถึงกับตัวสั่นทันที
หูของเขาอื้อลงและพยายามจะไม่นึกถึงเรื่องที่เลวร้ายที่สุด เอวา
ลูบไหล่เขาเบาๆบีบรัดและกระซิบบอกให้เขาใจเย็นๆ
“ทะ..ทางนี้..ดีกว่า..คุณ..ผู้หญิง..” เสียงของเขาสั่นเทิ้ม หัวใจตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม
พร้อมทั้งนำเอวาออกไปที่นอกบ้าน อ้อมด้านหลังบ้านไปที่หน้าต่างห้องนอน
แง้มออกเล็กน้อยเพื่อให้เห็นภายในห้องซึ่งมัน – บาดตาเหลือเกิน..
เมน่า
บาร์เดอร์ ภรรยาโดยชอบด้วยกฎหมายของ โมฟาเลส บาร์เดอร์ กำลังตั้งเข่าชันและขย่มให้กับชายนิรนามอยู่บนเตียงที่เธอใช้หลับนอนกับสามีทุกวัน
หน้าอกทรงโตของเธอเด้งขึ้นเด้งลงในขณะที่มือหยาบๆของเขาลูบสัมผัสมันอยู่
เธอครางออกมาด้วยเสียงเสียวที่สุขล้นและก้มลงไปจูบชายชู้ พร้อมทั้งเอ่ยชมว่าเธอนั้นเสียวสะท้านเพียงใด..
– เมฟ ถอยผละออกมาจากช่องว่างนั้นและทรุดเข่าลงไปกองกับพื้นทันที เอวา-ร่า หันไปมองด้วยความแปลกใจและรีบเข้าไปดูที่ช่องนั้น
และเธอก็เข้าใจทันที
“ร้ายกาจจริงๆ.. นั้นเมียท่านหรือ..” เธอถามและพยุงตัวเขาขึ้นมายืน ปัดเศษฝุ่นเศษดินออกจากกางเกงและแขนเสื้อ
– “ครับ.. แต่ข้า..” เขายังไม่เชื่อสายตาตัวเองดี รีบกลับไปเข้าไปส่องดูอีกครั้ง
เมน่ากำลังนั่งคุกเข่าอยู่บนเตียง
ปากของเธอนั้นไม่ว่างจะคุยเพราะอมของลับของชายชู้อยู่
เธอดูดเลียอย่างเต็มใจและส่งสายตาแห่งความร่านให้กับเขา ก่อนที่จะยอมให้ชายผู้นั้นซึ่งไม่ใช่สามี
รดน้ำรักบนใบหน้าอ่อนเยาว์ของเธอ – ชายหนุ่มน้ำตาไหลพรากออกมา
ร่างกายของเขาแข็งทื่อจนขยับไม่ได้ราวกับถูกบังคับให้มองภาพตรงหน้านั้นไปตลอดกาล
เอวา เขามาดึงตัวเขาออกไปและโอบกอดเขาไว้ปลอบใจเหมือนกับเด็กน้อย
“เจ้า...ใจเย็นๆก่อน...กลับไปที่วังกับข้าก่อนดีกว่า...อย่าพึ่งเข้าไปคุยกับนางตอนนี้เลย...” ชายหนุ่มเสียสติไปอย่างสิ้นเชิง
เขาแทบจะไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าเธอพูดอะไรกับเขา
ภาพฝันวัยเยาว์เมื่อครั้งรู้จักกันใหม่ๆพังครืดลงไม่มีชิ้นดี
สัญญาที่เคยวาดฝันกันไว้ที่ริมแม่น้ำท้ายเมืองถูกฉีกขาดลงทันที
ความว่างเปล่าเข้ามาครอบงำจิตใจของเขาจนมันมืดมิดไปหมด.. –
เขาซบไหล่ของเอวา-ร่าและร้องไห้ออกมาอย่างไม่อับอายฟ้าดิน
“คนรถคะ...คนรถ...” เธอโบกมือเรียก รถม้ารับข้างที่ผ่านมาและรีบขึ้นไปทันที
ชูตราของวังให้เขาดูจากนั้นรถม้าก็รีบเคลื่อนตัวไปอย่างรวดเร็ว..
เอวา-ร่า พา
เมฟ มาที่ห้องนอนของเธอ ปรนนิบัติเขาอย่างดีด้วยผ้าขนหนูซึ่งทักทอมาจากขนของตัวแมนด้า(นิ่มเป็นพิเศษ) นวดผ่อนคลายให้ พลางพูดให้กำลังใจทุกทาง จนชายหนุ่มเริ่มได้สติขึ้นมา
เขาเล่าเรื่องทุกอย่างให้เธอฟังออกมาว่าไม่เคยคิดจะแคลงใจใดๆในตัวภรรยา และก็ไม่รู้เหมือนกันว่านางแอบคบชู้มานานแค่ไหนแล้ว
“ผู้น่าสงสาร..”เอวา บีบมือเขาไว้เบาๆ และลูบผมบางๆ
ใช้นิ้วเขี่ยน้ำตาออกจากแก้มของเขา “เจ้ายังเด็ก
ยังมีโอกาสหาคู่ครองใหม่นะ โมฟาเลส.. เจ้าอายุเท่าไหร่กันล่ะ”
“ข้า21ครับ ท่านผู้หญิง.. เอวา..” เอวาจูบลงบนแก้มของเขาเบาๆและแนะนำด้วยเสียงที่จริงจัง
“เผื่อว่าเจ้าจะยังไม่รู้ ข้า 34 แล้ว แต่งงานไป 3
รอบ ล้มเหลวทุกครั้ง ผัวข้าไม่เคยได้ความซักคน..”
นับเป็นความรู้ใหม่ที่ชวนให้น่าฟัง
เมฟ มองแม่ทัพสาวด้วยสายตาประหลาดและอยากจะรู้อะไรมากกว่านั้น “ข้าจึงมีรสนิยมชอบร่วมรักกับเด็กหนุ่ม
รุ่นๆเจ้านี้แหละ ทั้งไร้เดียงสา ทั้งน่ารักน่าเอ็นดู..” หญิงสาวผู้เอาใจชายหนุ่มผู้ช้ำรัก
และบีบไหล่เขาเบาๆ
“ท่านหญิง.. งดงาม...เหนือหญิงใด..ข้าเองก็...”เขาตอบเบาๆ..สะอื้นเสียงในลำคอ.. “ท่านหญิง..ข้าขอโทษ..” เขาจับมือของเธอออกจากไหล่และสอดหน้าเข้าไปจูบเธอทันที..
เอวา.ประหลาดใจเล็กน้อยที่จู่ๆชายผู้นี้ซึ่งพึ่งจะเศร้าโศกจากการถูกนอกใจกลับกลายเป็นฝ่ายบุกเสียได้
แต่เธอก็รอโอกาสนี้มานานแล้ว.. หญิงสาวขึ้นไปนั่งคร่อมเขาบนเตียง
ถอดเสื้อของตัวเองออกอย่างรวดเร็ว –
ชายหนุ่มก็ไม่น้อยหน้าเมื่อได้ความรู้สึกกลับขึ้นมา เขาขย้ำหน้าอกสาวรุ่นตรงหน้าและก็พบว่ามันช่างอ่อนนุ่มและไม่เหลวจนเกินไปเหมือนกับเมียของเขา
– นังแพศยาสารเลวที่ลอบเล่นชู้ตอนที่ผัวไม่อยู่บ้าน
ทั้งคู่กอดจูบกับอย่างดูดดื่ม
ลำแขนของเมฟนั้นโอบรัด เอวา ได้ทั้งตัวเขามีความแข็งแรงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว..
ชายหนุ่มพลิกตัวกลับขึ้นมาให้หญิงสาวลงไปนอนอยู่ด้านล่าง –
เธอหลับตาลงและดึงเขาเข้ามากระซิบเบาๆ -- “เอาเลย..โมฟาเลส..
คิดซะว่า..ข้าเป็นเมียเจ้าก็แล้วกัน... แต่เป็นเมียที่จะไม่มีวันนอกใจ...อื้มมม..
เจ้า..”
ยังไม่ทันพูดจบดี
ชายหนุ่มกลัดมัน ก็มุดลงไปที่ซอกขาของเธอ.. ใช้ลิ้นแตะวนไปรอบๆ
และมาหยุดอยู่ที่ช่องแคบชวนเสียวซึ่งเขาแอบฝันมาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว –
ไม่มีพันธะของภรรยาอีกต่อไป ไม่มีความรู้ผิดอีกต่อไป เมฟ
จัดการบรรเลงเพลงลิ้นชวนฝันลงบนช่องรักของเอวา-ร่าทันที
“อ๊า... ช่างอ่อนนุ่ม...อื้มมม..ยอดเลย...อื้มมม..” เธอเอ่ยชมและกดหัวเขาเข้ามาแนบ – เมฟ
สอดลิ้นรุกไล่เข้าไปลุกกว่าเดิม พลางตวัดอย่างชำนาญ
แม้ว่าภายในจิตใจจะยังคงเสียใจกับเรื่องเมียนั้น
แต่สิ่งที่อยู่ตรงหน้ากับดึงความสนใจของเขาได้มากกว่า และยิ่งเอวา-ร่า
ครางออกมาดังเพียงใด เขาก็ยิ่งเพิ่มระดับความเร็วของลิ้นมากเท่านั้น เพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับหญิงสาวตรงหน้า
เมื่อชิมน้ำหวานจากช่องสาวเพียงพอแล้ว
เมฟก็เปลี่ยนจุดหมายปลายลิ้นมาลงที่ยอดปทุมถันสีสวยของเธอแทน
พลางใช้ท่อนกระบองสมชายซึ่งเขาเคยตั้งเป้าไว้ว่าจะมอบมันให้หญิงสาวเพียงคนเดียว..
ซึ่งตอนนี้มันก็ไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว เขาใช้มันถูวนไปมารอบๆปากทางเข้า
เอาไปสีกับเม็ดละมุนบ้างยั่วยวนเป็นจังหวะ – เอวา-ร่า หยิกแก้มเขาเบาๆและยิ้มให้กับความทะเล้นทะลึ่งของเด็กหนุ่ม
จนใบหน้าของเขาเริ่มจะมีรอยยิ้มออกมาบ้างนับจากที่เศร้ามาหลายชั่วโมง
“เอาซิ...เมฟ..เย็ด ข้าสิ..
เย็ดข้าให้เหมือนกับเป็นนังร่านยั่วไอ้จ้อนของเจ้า..” นางโพล่งคำพูดหยาบคายออกมา
สร้างอารมณ์พุ่งพล่านให้เขาเข้าไปใหญ่ – เมฟ ไม่รอช้าบุกทะลวงตามคำชวนทันที
เขาแทงแม่ทัพสาวด้วยหอกพิฆาตมิดลำกลางห้องนอนของเธอจนเธอร้องเสียงหลงออกมาทันที
“คำเปรยที่ว่า...ซี้ดดดดด อ๊ะ.. อ๊ะ... อ๊ะ
อะ...อร๊างงงง อื้มมม อี้ยยยย เจ้านี้มัน...อื้มมมมอร๊างงงง อ๊างงงงง อูยยยย
ซี้ดดดด กลัดมัน....เสี้ยนกระหาย...ซี้ดดดด อร๊า...อ๊ะ... เหลือเกิน..” เอวา ครางออกมาเมื่อ เมฟ
ลงกระหนำซอยความเสียวสอดใส่สู่ช่องรักของเธอถี่รัว หน้าอกเด้งพลันสลับขึ้นลงไปมา
เธอเงยหน้าขึ้นมองหัวเตียงซึ่งสั่นครืดมีเสียง เอี๊ยดอ๊าด ของขาเตียง
“ก็ของท่านมันช่าง..อ๊า.... อ่า... ท่านช่าง...น่า...ซี้ดดด..
เหลือเกิน ท่านผู้หญิง..”
“เอาสิ...เอาสิ... พูดคำนั้นกับข้า … ซี้ดดดด... อื้มมมม
ลีลาการเย็ดของเจ้า....เหนือผู้ใดจริงๆ... อร๊างงงง ซี้ดดดดด... อื้มมมมมม อี้ยยยยยย” เอวา-ร่า กรีดเสียงครางออกมาลั่น
เด็กหนุ่มก็ไม่ประวิงรีรออะไรอีกต่อไป...
เขารวบเอวเธอไว้ยกขึ้นเล็กน้อยและสอดใส่กระแทกเร่งรักเข้าไปอีก – ต้องลืมให้ได้
ลืมอีเมียชั่วให้ได้ ..แล้วมาสนใจกับแม่ทัพสาวตรงหน้าดีกว่า
รูปร่างของนางนั้นเด็ดสะเด่ากว่าเยอะ
เมฟท่องไว้ในใจและประเด็นความเสียวแบบไม่ยั้งให้ เอวา แบบไม่มีกัก
“อื้ออออ ข้า อิจฉา....นัง...เมีย ซี้ดดดด
ของเจ้าจริงๆ.. อร๊างงงง อ๊ะ.. อ๊ะ... มีผัวเย็ดเก่งแบบนี้ทุกวัน อื้มมมม อื้มมมม
อร๊างงงง... ข้าจะเลิกรบเลยคอยดู อูยยยย” นางมองเขาด้วยสายตายั่วยวนพร้อมทั้งดึงเข้ามาจูบไว้..
กายของทั้งคู่ประสานกันจนจะกลายไปหนึ่ง จากแม่ทัพสาวผู้ชาญสมรภูมิบัดนี้กลายเป็นนักรักสาวไฟแรงสูงไปเสียแล้ว
– เธอพลิกตัวขึ้นมาอยู่ด้านบน ควบคร่อมชายหนุ่มคู่นอนไว้เหมือนกับควบม้าศึก..
จากนั้นก็ขย่มตอแข็งดัง ตับ ตับ
เสียงเนื้อเอ็นกระทบเข้าไปในช่องสวาทดังขึ้นบริเวณรอบๆนั้นมีน้ำไหลเยิ้มออกมาจนท่วมต้นขา
บ่งบอกได้ว่าอารมณ์ของทั้งคู่นั้นร่วมสวาทใกล้เคียงกันมาก
“ซี้ดดด... ท่านผู้หญิง...” ชายหนุ่มครางบ้าง.. เธอตบหน้าเขาเบาๆ “เรียก เอวา...อร๊างงง อื้มมม
ไอ้หนูของเจ้ามันเป็นของข้า... อื้มมม แข็งเหลือเกิน อูย...”
“เอวา...อื้มมม ข้าเสียวเหลือเกิน... ซี้ดดด...
ลีลาของท่าน..อื้มมมม อ๊ะ.. ข้าอยากได้เมีย เช่นท่านนัก...” เด็กหนุ่มหลุดพูดออกมาอย่างไร้เดียงสา
บัดนี้เขาลืมเมียเก่าไปเสียหมดแล้ว
“อื้มม.. อ๊ะ... อ๊ะ...เอาสิ..ข้ายอมตกเป็นเมียเจ้า
อร๊างงงง ผัวขา...อร๊างงงงซี้ดดดด”
เธอควบขย่มต่อไป เอามือดันไว้ที่เข่าของเขาซึ่งตั้งชันขึ้นมาเพื่อผ่อนแรง
เต้านมทรงกลมซึ่งยื่นล้ำออกมาเด้งขึ้นลงอย่างงดงามจน เมฟ
อดใจไว้ไม่ไหวต้องยื่นมือไปบีบเล่นอย่างเมามัน แม้จะไม่ใหญ่เท่าของ เมน่า
แต่ผิวสัมผัสนั้นเนียนนุ่มต่างกันเยอะมาก
“ถึงใจไหมล่ะ.. ซี้ดดด...อื้มมม...
ถึงใจไหม....อร๊างงงงง ... อ๊ะ...”
เอวา-ร่า ถามและเพิ่มความเร็วในการขย่มจนเด็กหนุ่มกัดปากครางเสียวออกมา
สีหน้าเหยเกเกร็งดูพิลึก – แต่ก็เพียงครู่เดียว เมฟ ยังไม่ยอมแพ้ในศึกนี้
เขาฮึดแรงดันตัวเองขึ้นมานั่งไว้ พลางกระแทกเอวสวนขึ้นไป กอดหญิงสาวไว้แน่น
และพาเธอลุกขึ้นจากเตียง.. เอวา-ร่า เอาขารัดไว้กับเอวแน่นๆของเขา
ในขณะที่ช่วงล่างของทั้งคู่ยังคงสอดรับกันอยู่
“เอวา...อื้มมม... ตัวท่านช่างหอมเหลือเกิน...”เขากระซิบบอกเธอ และพาเธอเดินรอบนอน – เอวา
กอดเขาไว้และกระแทกเอวสู้กลับเช่นกัน ศึกครั้งนี้ไม่มีใครยอมใครกันเลยจริงๆ
“อ๊างงงง อร๊างงงงง อ๊ะ.. อ๊ะ... อื้มมมม
อื้มมมมมม ซี้ดดดดดดดด…” เธอโน้มตัวไปข้างหลังโดยที่แขนยังคล้องคออยู่
ช่วงล่างยังคงติดกันหนีบราวกับว่าเป็นอันเดียวกัน – เมฟซึ่งใกล้จะถึงจุดหมายแล้ว
ดันเอวาไปติดกำแพงใกล้ๆกับประตู.. – เธอดึงเขาเข้ามาจูบและแลกลิ้นกันอย่างดูดดื่ม
“ใกล้แล้ว...ซี้ดดด. ข้าใกล้แล้ว…อื้มมมม เมียจ๋า...ซี้ดดด” เขาพูดและเร่งความเร็วในการกระแทก “เอวา...ตรงไหนดี..เอวา อูย...” เขาเอ่ยถามขึ้นจุดจบของบทเพลงรัก
“ข้างใน ..อ๊ะ คะ...ซี้ดดดด..” เธอกระซิบเบาๆ และกดเอวเขาไว้แน่น – ช่างเรื่องความปลอดภัย
มันไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว ความเสียวและอารมณ์ใคร่ได้ครอบครองโลกนี้ไปเรียบร้อยแล้ว
เมฟปล่อยขาขวาของเอวาลงยกขาซ้ายของเธอขึ้นมาไว้และกระแทกเข้าไปจนลึกสุด...
และแช่มันคาไว้...เอวของเขากระตุกเกร็ง...
น้ำข้นขาวค่อยๆไหลออกมาลงสู่ต้นขาของเธอทีละนิด ทีละนิด
ก่อนที่เขาจะชักแท่งเนื้อซึ่งกำลังจะยวบตัวออกมา
เอวาใช้นิ้วแยกที่กลีบของตัวเองซึ่งอุดมไปด้วยน้ำรักของเมฟ
ให้เขาดูและยิ้มให้อย่างภูมิใจ ก่อนที่จะคุกเข่าลงช้าๆ สายตาประสานอารมณ์ร่าน
และจัดการใช้ปากอุ่นๆอมดุ้นซึ่งมีน้ำประปลายเปรอะอยู่ของเขา
“ซี้ดด... ท่าน...ยอดหญิงจริงๆ...เอวา..” เขาเอ่อชมและลูบผมเธอช้าๆ – การทำเช่นนี้อาจทำให้เขาหัวขาดได้
เนื่องจากเป็นการแตะตัวแม่ทัพสงครามโดยไม่ให้เกียรติกันเป็นความผิดอาญาของราชอาณาจักร
แต่ช่างมันเถอะ... ฐานันดร
ไม่สำคัญอีกต่อไปเมื่อชายหญิงไร้เสื้อผ้าและอยู่กันตามลำพังในห้องนอน
เมฟอุ้มเอวาขึ้นไปนอนกอดบนเตียง
หลังจากที่เธอดูดน้ำออกจากปลายเห็ดของเขาจนเกลี้ยง –
เธอซบไหล่เขาและเอ่ยสรรเสริญถึงลีลาการร่วมรักสารพัด
จนเด็กหนุ่มลำพองและจูบหอมเธอราวกับเป็นภรรยาตัวจริง
“เมียข้าก็พูดเช่นนั้นบ่อยๆ”เขาพูดขึ้นมา และก็เผลอคิดถึงเมียขึ้นมาซะอย่างนั้น
จิตใจวัยรุ่นช่างสับสนเหลือเกิน – “ข้าไง
เมียเจ้า..”เอวาท้วงขึ้นมาและมองค้อนเขาด้วยสายตาหึงหวง
ชายหนุ่มมองลงมาและยิ้มให้อย่างอ่อนโยนก้มลงจูบหน้าผากของเธอ
“นั้นสินะ... มีเมียเป็นแม่ทัพสาว
ดีกว่าเป็นลูกสาวร้านทำขนมปังเยอะ”เขาลูบผมเธอและพูดจาเอาอกเอาใจ
แต่หลังจากนั้นสีหน้าก็เรียบเฉยลงเหมือนเดิม --เอวาเห็นท่าจะไม่ดีเมื่อเด็กหนุ่มเงียบลง
“หึหึ พ่อหนุ่ม” เธอกระซิบและงับที่ติ่งหูของเขา “ต่อรอบสองให้ได้ข้าถึงจะนับว่าเป็นยอดจริงๆ..”
ได้ยินเช่นนั้นแล้วมีหรือจะยอมน้อยหน้า
– เมฟสลัดภาพบาดตาของภรรยาทิ้งและกลับมาขึ้นคร่อมหญิงสาวข้างๆทันที
หอกสวาทของเขาพร้อมจะฟาดฟันอีกครั้งหนึ่งแล้ว “ท่านแม่ทัพหญิง...
หึหึ ท่านถูกจับได้แล้ว.. ยอมแต่โดยดีเถิด..”
เอวา-ร่า
ยิ้มรับพร้อมทั้งส่งจูบเบาๆอย่างเย้ายวน “ท่านลอร์ดหนุ่มคงดีแต่พูด..
ดูสิว่าหอกของท่านจะยังใช้งานได้หรือเปล่า..”
จากนั้นทั้งคู่ก็บรรเลงเพลงรักกลางห้องบรรทมกันอีกถึงสามครั้ง
– จนทั้งคู่เพลียและเผลอหลับไปทั้งอย่างนั้น
เมฟตื่นขึ้นมาแต่พบว่าข้างกายของเขานั้นไม่มีเอวา-ร่าอยู่แล้ว
เขาลุกขึ้นมาหาผ้าผ่อนมานุ่งไว้และเดินไปดื่มน้ำซึ่งรินเตรียมไว้พร้อมบนโต๊ะข้างๆหน้าต่าง
– เด็กหนุ่มยืนดื่มน้ำและมองออกไปเห็นบรรยากาศรอบๆเมืองเกือบจะทั้งหมด
มันเป็นทิวทัศน์อันงดงามซึ่งสามัญชนไม่มีวันจะแตะต้องได้เลย
(อยากให้เมน่ามาเห็นจัง..) เขาเผลอรำพึงถึงเธอออกมา
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าความผูกพันกับเมียเก่านั้นช่างลึกซึ้งเกินจะลืมได้
แม้ว่าเธอจะทำให้เขาเจ็บปวดเพียงใดก็ตามแต่เขาก็ยังคงรักเธออยู่..
ความคิดถึงนั้นก่อตัวจนเกิดเป็นความเหงาอีกครั้ง
แม้จะได้ระบายในทางเพศออกมาแล้วแต่ความรู้สึกสุขกับเอวานั้นกลับไม่ยั่งยืนเอาเสียเลย
เมื่อเสร็จกิจก็กลับคิดถึงเธออีกครั้ง.. เมน่า บาร์เดอร์ – โมฟาเลส
คนนี้นั้นกลับรู้สึกคิดถึงเธออย่างสุดหัวใจ
เขาวางแก้วน้ำลงบนโต๊ะและย่องเข้าไปที่ประตูเมื่อได้ยินเสียงคนกระซิบกระซ่านกันเบาๆ
เป็นบทสนทนาระหว่างผู้หญิงกับผู้ชาย – ชายหนุ่มแอบเงี่ยหูฟังและมองผ่านช่องประตูซึ่งแง้มไว้เป็นช่องเล็กน้อย
เอวา-ร่า
กำลังคุยกับชายหนุ่มผมทองรูปงามใส่เกราะสีเงิน เซอร์ไกอา นั้นเอง
“เรื่องของ เมน่า บาร์เดอร์จัดการเรียบร้อยหรือยัง?” เธอเอ่ยถามขึ้นมาเบาๆ
โดยเข้าใจว่าเมฟนั้นยังคงหลับอยู่
“ครับ นายหญิง ..เซอร์อาทูร่า จัดการเรื่องนี้แล้ว
เขาใช้ ลัสต์แรฟ(ยาต้องมนต์ทางเพศ)กับเธอ จนได้ผลดีตามที่ท่านเห็น.. แต่ที่น่าแปลกก็คือ
เวลานี้เซอร์อาทูร่า น่าจะกลับมาได้แล้ว แต่ใยถึงยังไม่เห็นตัว ข้าคิดว่า
เขาคงจะไปเที่ยวเล่นอยู่รอบๆชานเมืองกระมัง ชายผู้นี้เป็นชายผู้สำราญซะด้วย...”
ลัสต์แรฟ? เมฟ ได้ยินคำนี้เต็มสองรูหู..
มันคือยาที่ทำให้ผู้ดื่มต้องมนต์สะกดและตกอยู่ในห้วงอารมณ์ทางเพศนี้น่า..
นี้เมียของเขาถูกคนพวกนี้วางยาหรือนี้!!
นางสารเลว เขาอยากจะพุ่งออกจากประตูตรงเข้าไปบีบคอนางเสียตอนนี้เหลือเกิน
ทว่าดาบเล่มโตที่เหน็บอยู่ข้างเอวอัศวินหนุ่มนั้นทำให้เขาต้องชั่งใจไว้ก่อน
“งั้นหรือ ข้าก็คิดเช่นนั้น ..
อาจจะไปหมกตัวอยู่ที่ซ่องสักแห่ง..”
นางพูดขึ้นมาและจับเอวตัวเองบีบเบาๆทำหน้าปวดเมื่อย “เจ้าเด็กนั้นฮึดสู้ซะข้า ปวดเคล็ดไปหมดเลย”
เซอร์ไกอา
มองลงมาที่มือของเธอพร้อมทั้งเข้ามาบีบเอวให้นางเบาๆ – “ข้าคิดว่า ข้าช่วยท่านได้ นายหญิง”
ทั้งสองสบตากันครู่หนึ่ง
–“อย่ารุนแรงกับข้านักล่ะ..ข้าปวดเมื่อยอยู่..”
“ข้านุ่มนวลกับท่านเสมอ นายหญิง..” เซอร์ไกอาเอ่ยขึ้นเบาๆ และอุ้ม เลดี้เอวา-ร่า
แม่ทัพสาวขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน ทั้งคู่คุยหยอกเหย้ากันและพากันไปที่อีกห้องหนึ่ง
ทุกอย่างคลี่คลายลงหมดแล้ว
มันเป็นเพียงเรื่องความเข้าใจผิดเท่านั้น.. เอน่า ไม่ได้นอกใจเขา นางถูกวางยา
และนางคงกำลังรู้สึกผิดอยู่แน่ๆเมื่อตื่นมา เขาต้องรีบกลับไปปลอบใจนาง
ต้องรีบ..ไปให้นางรู้ว่า ความรักที่ผัวคนนี้มีให้นั้นยังคงครบถ้วนไม่บกพร่อง
สิ่งเลวร้ายที่ถูกสร้างขึ้นมาจากคนชั่วเหล่านี้นั้นมิอาจจะสั่นคลอนความรักระหว่างเราได้
– เอน่า บาร์เดอร์... พี่กำลังจะไปหาเจ้าแล้ว.. เมฟตั้งสติและรีบวิ่งกลับไปหา
เมน่า ที่บ้านทันที
หัวใจซึ่งห่อเหี่ยวไปแล้วได้กลับมาเบิกบานอีกครั้งโดยมีเมียรักเป็นยาใจ
“ปวดหัวจัง...”เมน่า
รำพึงเบาๆ เธอกำลังนอนอยู่บนแขนของใครสักคน สามีของเธอหรือ? ไม่ใช่สิ ท่อนแขนของเขาเล็กกว่านั้น
แล้วใครกันที่มานอนอยู่ข้างๆ
เธอหันไปมองช้าๆและเกือบจะกรีดร้องออกมาหากแต่ชายผู้นั้น เอามือมาปิดปากเธอไว้ก่อน
“ท่านเป็นใครกัน!?” เธอพูดและรีบปิดร่างกายของตนเมื่อเห็นว่ากำลังเปลือยเปล่าอยู่ –
ชายตรงหน้าซึ่งเปลือยเปล่าเหมือนกันยิ้มและกระซิบเบาๆ
“ข้า เซอร์ อาทูร่า อัศวินผู้อารักขา เลดี้
เอวา-ร่า”เขาแนะนำตัวและดึงหลังมือของเธอมาจูบเบาๆ “สวัสดีเมน่า บาร์เดอร์
เมื่อตอนเช้าเราพึ่งจะร่วมรักกันอย่างถึงใจไปเอง ใยเจ้าถึงจำไม่ได้
ลีลาของเจ้าสะระตี่เกินจะบรรยายเหลือเกิน ไหนจะหน้าอกหน้าใจขนาดนั้นอีก..”
พูดจบเซอร์อาทูร่าก็ยื่นมือเข้าไปบีบจับหน้าอกของเมน่าเล่นและหัวเราะชอบใจ
ในขณะที่หญิงสาวนั้นบิดตัวหนีและแสดงความไม่พอใจออกมา
“อย่านะ..ท่านพูดอะไร...
ท่านล่วงเกินข้าเช่นนี้ได้อย่างไร.. ข้ามีสามีแล้วนะ..ถือดีอย่างไร
ถึงข่มเหงคนอื่นได้เพียงนี้ ท่านเป็นอัศวินไม่ใช่หรือ...” นางท้วงขึ้นมาและรีบลุกขึ้นจากเตียง
หากแต่ถูกเขาดึงกลับมาไว้ในอ้อมกอดเสียก่อน ร่างกายของนางร้อนรุ่มขึ้นมาทันที บริเวณร่องเสียวจู่ๆก็แฉะขึ้นมาเอง
“ไม่เอาน่า แม่หญิง.. ผัวเจ้า..ตอนนี้กำลังร่วมรักอยู่กับนายหญิงของข้ากระมัง.. ลืมไปเสียดีกว่าไหม..” เขาพูดและใช้หนวดคลึงเคล้าบนไหล่เปล่าของนาง
สลับหอมแก้มเป็นบางครั้ง
“เดี๋ยวเถอะ พูดอะไรไม่กลัวอาญา..
ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้นะ..ปล่อย..”
นางดิ้นต่อไปแต่ก็มิอาจจะหลุดพ้นได้ อาทูร่าประกบปากเข้ารับทันที..
ริมฝีปากอุ่นๆของเขาทำให้นางชะงักลงทันที
ความคุ้นเคยแปลกๆทำให้นางเผลอรับจุมพิตนั้นไว้และสอดลิ้นรับแลกไปอย่างไม่รู้ตัว
อาทูร่า
ถอนปากออกมา มือทั้งสองยังประคองเต้านมอยู่ – เมน่าเบือนหน้าหนีด้วยความเขินอาย
เธอไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมจู่ๆถึงได้ยอม
อาจจะเป็นเพราะหน้าตาหล่อเหลาคมเข้มของเขาหรือ?
นางคงเชื่อไม่ลงเนื่องจากความซื่อสัตย์และความรักที่นางมีให้สามีนั้นมันมากมายเกินกว่าหน้าตาจะมาพรากได้
“เห็นไหมล่ะ..แม่หญิงเมน่า..
ข้าบอกแล้วว่าท่านจะชอบ..” อาทูร่ารุกต่อไปโดยการจูบซอกคอของเธอ.. –
เมน่าหยุดนิ่งเอียงคอหลบเล็กน้อย
แต่เธอไม่ได้ดิ้นรนอีกต่อไปแล้วกลับเคลิบเคลิ้มไปตามแรงชักจูงนั้น
จนถูกผลักลงไปนอนเช่นเคย
“เดี๋ยวสามีข้ามาเห็นเข้า...อื้มมม...ท่านอัศวิน...อย่าเลยได้โปรด...อร๊า...”
นางครางออกมาเพราะมิอาจจะกลั้นอารมณ์ใคร่ได้อีกต่อไป “ท่าน...อื้ม...อย่าซี่...”
เซอร์อาทูร่าเลียหัวนมของเมน่าอย่างดูดดื่ม
เขาใช้นิ้วเล่นอยู่ที่บริเวณรอบๆ
ร่องสาวของเธอก่อนที่จะสอดนิ้วเข้าไปเกี่ยวตวัดข้างใน..
เอวของหญิงสาวลอยขึ้นเสียงครางสยิวดังออกมา หัวของนางโล่งเตียนหมด
ภาพสามีคนดีที่คอยยิ้มให้ในวันที่มีปัญหาก็จางหายไปทันพลัน..
อารมณ์ใคร่ของนางได้คลอบงำจนยากจะถอนตัวแล้ว
หลังจากที่เร่งฝีเท้าจนสุดฝีมือด้วยความเหนื่อยล้า
เมฟก็ใกล้จะถึงกับบ้านของตนแล้วห่างไปเพียงไม่กี่เมตร –
แล้วภาพในตอนนั้นก็ย้อนกลับเข้ามา ช่างมันสิ อย่าไปนึกถึง เธอถูกวางยา
เมน่าเมียของเขาถูกทำมิดีมิร้ายนั้นไม่ใช่การสมยอม นางไม่ได้คบชู้เสียหน่อย
กระนั้นแล้วกลับลืมไม่ได้..
เขาอ้อมไปที่หลังบ้านก่อนเพื่อสังเกตการณ์ผ่านทางช่องหน้าตา –
เสียงครางเบาๆรอดออกมา.. อะไรกัน ยานั้นยังไม่หมดฤทธิ์อีกหรือ... ยานรกนั้น..
ยาที่พรากความรู้สึกของเขาไป ยาที่ทำให้เมียของเขาต้องตกไปเป็นของชายคนอื่น
เมฟ
ถอยห่างออกมาจากหน้าต่างก่อน
เพราะไม่อยากฟังเสียงเมียของตัวเองครางเสียวกับผู้อื่น
เขาพยายามคิดแผนที่จะเข้าไปช่วยเธอ.. เนื่องจากเขาบุกเข้าไปหาตรงๆไม่ได้
ไอ้คนที่กำลังชำเราเมียของเขาอยู่นั้นมันดันเป็นอัศวินองค์รักษ์ของแม่ทัพจอมโหดเสียด้วยสิ
“อี้ยยยยย ท่านอัศวิน.... อื้มมมมม” เสียงเมน่ากรีดร้องดังออกมา
ตามด้วยเสียงเนื้อกระทบกัน.. เมฟพยายามทำเป็นไม่ได้ยินแล้วคิดแผนการต่อไป
“ซี้ดดดดด... เร่งหน่อยสิท่าน....อื้มมมม
เดี๋ยวผัวข้ากลับมา...อร๊างงงง ซี้ดดดด... ของท่านมันช่างใหญ่เหลือเกิน...”
หืม? นางพูดอะไรออกมานะ? เมฟมึนงงเล็กน้อยในสิ่งที่ได้ยิน
และรีบเข้ามาเงี่ยหูฟังให้ได้ยินชัดๆทันที
“อร๊างงงง อ๊ะ...อ๊ะ...ท่านอัศวิน อื้มมม อื้มมม
ของท่าน..แน่นคับรูข้าไปหมดเลย...ซี้ดดดด เหลือร้ายเสียจริงท่าน อื้มมมม”
เมียสาวครางสวาทแสดงอารมณ์ร่านให้ชายผู้ไม่ใช่ผัวอย่างชัดเจน – เมฟมองเข้าไปก็เห็นได้ชัดเลยว่าเธอนั้นไม่ได้ตกอยู่ในมนต์ของยาแล้ว
– อัศวินหนุ่มกำลังกระทุ้งบั้นท้ายของเมียเขาอยู่ในท่าหมาซึ่งเป็นท่าโปรดของเธอเอง
สีหน้าของเธอดูมีความสุขมาก..มากเสียยิ่งกว่าตอนร่วมรักกับเขาเสียอีก
“เป็นไงแม่หญิง... อูยยย ท่านชอบไหม...ซี้ดดด.. ชอบของข้าไหม
แม่หญิง.. ” เซอร์อาทูร่าถามและกระแทกต่อไป –
เมน่าหันไปมองเขาและเอี้ยวคอขึ้นไปจูบ
หน้าอกของนางชูขึ้นมาเด้งไปมาต่อหน้าสามีซึ่งแอบมองอยู่
การแลกจูบนั้นคิดเป็นอื่นไม่ได้เลยนอกจากความเต็มใจ
“คะ...ท่านอัศวิน...อื้มมม
เย็ดเก่งมากเลยค่ะ...ซี้ดดดด อร๊างงง ซี้ดดดด... ”
“ดีกว่าผัวเจ้าไหม...หืมม..
ที่รักของข้า...ซี้ดดด..” เขาถามคำถามชวนจิตตก –
และมองผ่านช่องหน้าต่างเล็กๆนั้น สบตากับเมฟซึ่งกำลังยืนตัวสั่นอยู่ข้างนอก..
เซอร์อาทูร่ารู้แต่แรกแล้วว่าเมฟนั้นแอบมองอยู่
เขาถึงจงใจจัดมุมให้เมฟได้เห็นเมียของตนถูก เอา อย่างชัดเจนนั้นเอง
“ซี้ดดดด.. ท่านเก่งกว่า...อร๊างงง อร๊างงง
ยอดกว่า....อื้มมมม ท่อนเอ็นของท่าน... เย็ด ซะข้า....อยากตกเป็นของท่านเลย
ซี้ดดดดด...” นางสารภาพความร่านออกมาจนชัดเจน –
เซอร์อาทูร่ายิ้มผ่านช่องหน้าต่างเชิงเย้ยหยันและกดหัว เมน่า ลงไปแนบกับที่นอน เมฟถอยหลังออกมาน้ำตาไหลพราก
เขาคุกเข่าลงไปกับพื้นและล้มลงไปอย่างไม่มีใครสนใจ
เมียรักที่เคยคิดว่าต้องมนต์สะกดนั้น
นางกลับเล่นชู้เสียจริงแถมยังดูหมิ่นเขาลับหลังอีกด้วย
ทั้งยังพูดคำหยาบเชิงเพศซึ่งทั้งสองไม่เคยพูดใส่กันมาก่อน นี้มันเรื่องอะไรกัน
เสียงกรีดร้องด้วยความเสียวด้วยความสุขของ
เอน่า ดังลั่นออกมาจากห้องนอนชวนให้จิตตกเข้าไปใหญ่ เมฟ
เอาเท้าไสกับพื้นดินพลางถอยให้ห่างจากบ้านของตนเองราวกับว่ามีผีสิงอยู่ในนั้น
เขาไม่อาจจะลุกขึ้นยืนด้วยตัวเองได้ เพราะแข้งขานั้นแข็งสั่นไปหมด
“เจ้าไม่น่าหนีข้ามาแบบนี้เลย...”เสียงสตรีเอ่ยขึ้นจากด้านหลังของเขา.. –
เอวา-ร่า.. เธอมาพร้อมชุดเกราะเต็มยศมีดาบแนบสองข้าง เบื้องหลังมีองค์รักษ์หนุ่ม 2
คนตามมาด้วย ใบหน้าของนางเปลี่ยนไปเป็นคนละคน นิ่งเฉยและดูเย็นชา
เซอร์น๊อตติ้ง
เข้ามาพยุง เมฟ ให้ลุกขึ้นและพาเข้าไปนั่งที่รถม้าซึ่งถูกกั้นไว้สองฝั่ง
“ไปพานางออกมา”นางสั่งและตามขึ้นรถม้าไปนั่งฝั่งเดียวกับ
เมฟ – เด็กหนุ่มนั่งตัวสั่นตาค้าง ครั้งนี้มันหนักกว่าครั้งที่แล้ว
ปากของเขาอ้าแข็งค้าง ด้วยตาเบิกกว้างไม่มีคำพูดใดๆหลุดออกมาเลย
เขาไม่พูดอะไรกับเอวาซักคำ
ซักครู่ก็มีเสียงเปิดประตูรถม้าดังขึ้นจากอีกฝั่งหนึ่งซึ่งถูกกั้นไว้เพียงไม้แผ่นบางๆ
– ตามด้วยเสียงพูดคุยระหว่างหญิงสาวและชายหนุ่ม
ซึ่งได้ยินมาถึงฝั่งทางทั้งสองได้อย่างชัดเจน
“เราจะไปไหนกันหรือคะ..”เสียงหญิงสาวพูดเอ่ยถามขึ้น..—
ฟังได้ชัดว่าเป็นเสียงของเอน่า..
“ที่ของข้า.. ราชวังเก่าของกษัตริย์เจ้า..”เซอร์อาทูร่าคือชายคนที่นั่งอยู่ด้วยตอบขึ้นมา”เจ้าอยากจะกลับไปที่เมืองหลวงกับข้าไหมล่ะ..
ที่นั้นเจ้าจะสุขสบายและไม่ต้องมาทำงานแบบนี้อีก”
“จริงหรือคะ.. ท่านพาข้าไปได้จริงๆหรือคะ.”เธอตอบกลับมาด้วยเสียงสดใสแทบจะไม่มีความลังเลในการไตร่ตรองเพื่อคิดก่อนเลย
–
ความทรงจำวันวานกับสามีคงจะเลือนหายไปหมดแล้วเมื่อได้รับการปรนนิบัติอย่างหนักหน่วงจากอัศวินผู้มากกาม
เขาพยักหน้าเป็นการให้คำตอบ
“ท่านจิตใจดีจริงๆ
..” เธอพูดและจูบเขาเบาๆ
“กว่าจะถึงคงอีกนาน.. เจ้าช่วย..” เขาพูดและมองที่เป้าของตนซึ่งแข็งโด่ขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งหลังจากที่จัดหนักกับนางเมื่อครู่
“หวังว่าคงไม่ใช่ปัญหานะ.. เพราะ
เจ้าจะได้เป็นเมียข้าในอีกไม่ช้า”
เอน่า เกล้าผมขึ้นมาหลวมๆ
ยิ้มให้กับเซอร์อาทูร่า และควักเอา ท่อนเอ็นของเขาออกมารูดขึ้นรูดลงช้าๆ “คะ.. ข้ายินดีจะให้ทุกอย่างกับสามีอยู่แล้ว” จากนั้นนางก็ก้มหน้าลงไปที่ระหว่างขาของเขา
และจัดการใช้ปากรูดอม ท่อนเนื้อ ช้าๆอย่างประณีตแบบเดียวกับที่นางเคยทำให้กับ เมฟ
สามีของนาง
เมฟ นั่งตัวแข็งอยู่ที่อีกฝั่งของไม้กั้น..
เขาได้ยินเสียงทุกอย่างชัดเจน ทุกคำพูดที่เมียของเขาคุยกับชายคนนั้น
ทุกการยินยอมที่ฟังดูน่าหดหู่.. เสียงปากของเธอ
ที่เคยจูบกับเขาอย่างดูดดื่มในวันแต่งงานกำลังดูดไอ้จ้อนของชายอื่น ดัง จ๊วฟ จ๊วฟ
ฟังแล้วช่างบาดใจ กระนั้นแล้วเขาก็ยังคงไม่พูดอะไรออกมา
แม้แต่น้ำตาก็ยังไม่มีซักหยด เอวา-ร่า เฝ้ามองเหตุการณ์อย่างใจเย็น
ส่วนเซอร์น๊อตติ้งซึ่งควบคุมรถม้าอยู่นั้น หันกลับมามองด้วยสายตาที่ไม่สบายใจนัก
เนื่องจากคนที่อยู่หน้ารถนั้นสามารถที่จะเห็นเหตุการณ์ทั้งสองได้อย่างชัดเจนในเวลาเดียวกัน
เอน่าใช้ปากให้ดูดของเซอร์อาทูร่าจนมันพองออก
เขาระเบิดน้ำกามลงบนใบหน้าของเธอ..
หญิงสาวหลับตาสนิทเนื่องจากน้ำขาวข้นนั้นกำลังไหลอยู่บนเปลือกตาของเธอ –
นางยิ้มและหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข โดยที่ไม่รู้เลยว่าสามีของนางนั้น
นั่งฟังทุกอย่างที่เกิดขึ้นมาตลอด
เซอร์อาทูร่าเอาผ้ามาปิดตา
เมน่า และดึงไม้กั้นนั้นออกช้าๆ ทำให้สองฝั่งเปิดเข้าหากัน
เขากระซิบบอกด้วยคำหวานร้องขอให้เธอช่วยดูดให้เขาต่อ ซึ่งเธอก็รับทำด้วยความเต็มใจ
– เมฟ เผลอหันมองตามไปก็เห็นเมียของตัวเองกำลังนั่งคุกเข่าอยู่ต่อหน้าชายอื่น
ใบหน้าเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำรัก เธอกำลังดูดเลียถุงอัณฑะให้เขาอยู่อย่างมีความสุข
ในขณะที่ดวงตานั้นยังคงปิดสนิท เธอไม่รู้ตัวเลยว่าขณะนี้บนรถม้าคันนี้
เธอไม่ได้อยู่กันเพียงลำพังกับชู้รักแล้ว
โมฟาเลส
นั่งมองด้วยสายตาอ่อนล้า ทุกความรู้สึกมันพลัดหายไปหมดแล้ว
ความโกรธความแค้นเหือดแห้งไปจากใจ เขาไม่มีแรงแม้กระทั่งจะเสียใจ –
ชายหนุ่มต้องทนมองภาพนั้นต่อไปเรื่อยๆ จนในที่สุดรถม้าก็หยุดนิ่ง...
“ถึงแล้วเหรอคะ..” เมน่า ถามขึ้นในพลางเลียที่ปลายลึงค์ของเซอร์อาทูร่า –
เขาลูบผมเธอเบาๆและปลดผ้าปิดตาออกช้าๆ จับคางเธอให้หันไปมองที่ข้างๆ ...
หญิงสาวหน้าถอดสี ปากสั่นด้วยความตกใจ
เธอรีบเช็ดน้ำกามซึ่งแห้งเกาะอยู่บนใบหน้าอย่างรวดเร็ว ท่าทีรนรานทำผิดทำถูก
ส่วนเมฟนั้นก็ได้แต่จ้องมองด้วยสายตานิ่งเฉย โลกของเขามันพังไปหมดแล้ว พังไปตั้งแต่
เมน่า ตกลงยอมใจให้กับชายชู้ของเธอแล้ว
“ทะ...ท่านพี่..” เธอเอ่ยด้วยเสียงสั่น และพยายามจะยื่นมือไปจับแขนของเขา – แต่ เอวา
ผลักมือนั้นออกไปและพา เมฟ ลงจากรถไป ชายหนุ่มไม่ขัดขืน
เขายอมตามไปง่ายๆเหมือนกับคนไม่มีวิญญาณ
“เดี๋ยวมันก็จบแล้ว” เธอกระซิบบอกเขา “เซอร์น๊อตติ้ง
พาเขาเขาไปที่ท้องพระโรง”
“ครับ นายหญิง”
เซอร์น๊อตติ้ง รับช่วงต่อจาก เอวา-ร่า
เขาประคองไหล่ของเด็กหนุ่มซึ่งตกห้อยไม่คงทรง เดินขึ้นบันไดของวังไปช้าๆ
เอวา-ร่า
กลับเข้ามาข้างในรถม้า พยักหน้าให้เซอร์อาทูร่า ท่ามกลางความตื่นตระหนกของ เมน่า
ผู้หลงผิด เซอร์อาทูร่า คล้องกุญแจมือกับเธอทันที – “นี้มันอะไรกันคะ?”เธอถามด้วยเสียงตื่นกลัว
แม่ทัพสาวยิ้มให้และเอ่ยตอบเบาๆด้วยเสียงนุ่มนวล “นังตัวดี.. ข้า เลดี้ เอวา-ร่า ทอตต์ ผู้พิชิตเอร่อน ขอลงอาญาเจ้าในนามของคิงส์แมคไฟร์ที่
3 เอน่า บาร์เดอร์ หญิงผู้นอกใจสามี โทษของเจ้าคือ ประหารชีวิต”
ใบหน้าของเธอถอดสียิ่งกว่าเก่า “อะ..อะไรกันคะ ท่าน...ขะ...ข้า..ก็...
ร่วมรัก..กับคน...ของท่านนะ”
“อ๋อเหรอ..”
เอวา เริกคิ้วขึ้น “เซอร์แอฟโฟร่..”
เซอร์แอฟโฟร่ซึ่งเดินมาจากอีกมุมหนึ่งของอาคาร
มาพร้อมกับถุงใบใหญ่ เขาโยนมันลงกับพื้นจนสิ่งที่อยู่ข้างในกระเด็นออกมา –
มันคือศพซึ่งจากสภาพนั้นไม่สามารถระบุได้เลยว่าเป็นหญิงหรือชาย
อันที่จริงแล้วเกือบจะระบุไม่ได้เลยด้วยซ้ำว่าเคยเป็นมนุษย์มาก่อน เมน่า
คุกเข่าลงเมื่อเห็นศพตรงหน้า ขาแข้งสั่นไปด้วยความกลัว
เพราะนี้อาจจะเป็นสภาพของเธอในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า
“นี้แหละชู้ของเจ้า.. เราประหารไปเรียบร้อยแล้ว...” เอวา-ร่า ก้มลงมองหน้าเธอ พลางยิ้มเย้ย “ไม่ต้องห่วงไปหรอก ผัวเจ้า.. จะมีความสุขกับข้า
ตราบจนวันสุดท้ายของชีวิตต่ำต้อยของเขา”
เมน่า
เงยหน้าขึ้นมองสองแก้มอาบด้วยน้ำตา “ท่านช่าง...ใจร้าย...
ท่านทำไปเพื่ออะไรกัน
รูปโฉมท่านงดงามไม่มีใครเทียบใยเหล่าถึงได้มาสนใจแต่สามีข้า..”
เอวา
ปาดน้ำตาออกจากแก้มนุ่มนวลของเธอเบาๆ “โอ๋ๆ
สาวน้อยจ๊ะ..อย่าร้องเลยน่าสมเพช.. ข้าทำไปเพื่ออะไรงั้นหรือ?ข้าก็แค่ฆ่าเวลาเฉยๆก็เท่านั้นเอง
แต่พูดไปเมียช่างทำโรงเท้าชั้นต่ำอย่างเจ้าก็คงจะไม่เข้าใจ แต่อย่าไปกลัวไปเลย
วาระสุดท้ายของเจ้าจะต้องถูกเฝ้ามองโดยสามีของเจ้าอย่างแน่นอน” จากนั้น นางก็ถูก เซอร์ทั้งสองพาตัวขึ้นตาม เมฟ
ซึ่งถูกเซอร์น๊อตติ้งพาตัวไปก่อนหน้านี้แล้ว..
เซอร์น๊อตติ้งพาเมฟมาถึงหน้าบันไดแล้ว
เขามองเด็กหนุ่มด้วยสายตาสงสารในสังขารที่ย่อยยับไปจนถึงจิตใจ
ชายข้างๆกายเขานั้นไม่อยู่กับร่องกับรอยพลางพร่ำเพ้อถึงอดีตเหมือนคนขาดสติ
“ท่านอัศวิน...ฆ่าข้าเถอะ...ด้วยดาบของท่าน..ได้โปรด
ท่านอัศวิน...”เขาพูดเสียงในลำคอ –
เซอร์น๊อตติ้งส่ายหน้าพร้อมกับขมวดคิ้วและตัดสินใจทำในสิ่งที่ถูกต้อง
“ข้าทำให้ได้แต่เจ้าต้องรู้ความจริงก่อน.. เอานี้ไป...” เขาพูดเบาๆและยัดดอกไม้สีม่วงใส่มือของเขา.. เมฟ
เกือบจะทำตกจากมือไปแล้วแต่อัศวินหนุ่มประคองมือเขาเข้าไปก่อน “ฟังนะ..เมียของเจ้า..ผู้หญิงคนนั้นยังตกอยู่ภายใต้มนต์ของ
ลัสต์แรฟอยู่ ..นางเกือบจะคลายมนต์ได้เองแล้วตอนที่เห็นเจ้า..
ข้าจึงเชื่อและศรัทธาในความรักระหว่างเจ้าและเมีย.. รีบเถิดเจ้าคนทำรองเท้า
เอาดอกไม้นี้ไปให้นางสูดดมเถอะ
เมื่อทุกอย่างคลี่คลายแล้วข้าจะจัดการตามคำร้องขอของเจ้าให้เอง
ด้วยเกียรติของอัศวิน ข้าเซอร์น๊อตติ้ง ทอตต์ ขอให้คำสัตย์ในทุกถ้อยคำ
เมฟตั้งใจฟังสิ่งที่เซอร์น๊อตติ้งพูด
พยายามจะจับใจความให้ได้.. เซอร์หนุ่มคนนี้.. กำลังจะช่วยเขาอย่างนั้นหรือ..
กลลวงหรือเปล่า..
เขามองดอกไม้ในมือพินิจชั่วครู่ก่อนที่จะใส่มันลงในกระเป๋าและเอ่ยขอบคุณ
เซอร์น๊อตติ้ง ในน้ำใจและความกรุณาของเขา
แม้ว่าจะยังไม่ได้ทราบแน่ชัดเลยว่าจริงเท็จประการใด -- เขามองลงไปที่ขั้นล่างของบันได..
ภรรยาของเขาถูกตรวนอยู่ เธอเดินก้มหน้าร้องไห้มาตลอดทาง
สองคนที่เดินตามหลังเธอมานั้นคนหนึ่งคือชายชู้ของเธอเซอร์อาทูร่า
ส่วนอีกคนขึ้นชู้รักชั่วคราวของตัวเขาเองแม่ทัพหญิงเอวา-ร่า นังตัวต้นเรื่อง
นังคนนี้แหละที่วางแผนทั้งหมด และทำให้ครอบครัวของเขาต้องแตกแยก.. แต่ไม่เป็นไร
ความหวังกลับคืนมาสู่เขาอีกครั้งหนึ่ง
เมฟวิ่งลงขั้นบันไดไปอย่างรวดเร็ว
ท่ามกลางความแปลกใจของคนที่อยู่ข้างล่าง
เซอร์น๊อตติ้งทำทีเป็นมองไม่เห็นและเดินตามลงมาช้าๆ – เอวา-ร่า
มองเมฟด้วยสายตาผิดหวัง ว่าที่สามีของเธอที่อุตส่าห์ลงทุนลงแรงแย่งชิงมานั้น
ทำไมถึงได้วิ่งลงมาและดูมีชีวิตเช่นนี้
“ท่านหญิง เอายังไงดี”เซอร์อาทูร่าเอ่ยถามและชักมีดสั้นออกมาข้างหลังรอคำสั่ง
– “ปล่อยไป ข้าอยากรู้มันจะทำอะไรกัน..”เธอตอบ
หญิงสาวเงยหน้ามองคนรัก
สายตาของเธอเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด – แต่เขาไม่สนใจ เมื่อมาประชิดตัวแล้ว
เมฟก็รีบให้เธอสูดดมดอกไม้สีม่วงที่ได้รับมาจากเซอร์น๊อตติ้ง... – เมน่า
รู้สึกสดชื่นอย่างประหลาด.. ความร้อนรุ่มภายในร่างกายสลายไปเรียบร้อย
จิตสำนึกรู้ดีกลับมาแต่ยังคงไว้ซึ่งความทรงจำที่จะทำให้เธอรู้สึกผิดไปตลอดชีวิตจนวันตาย
เธอปล่อยน้ำตาออกมา ก้มลงคุกเข่า ขอโทษสามีนางด้วยความเศร้าและสำนึกอย่างแท้จริง
“ลุกเถอะ ...เมน่า เมียข้า..” เมฟซึ่งน้ำตานองไม่แพ้กัน ลงไปประคองเธอไหล่เธอไว้ และดึงเธอเข้ามากอด
ความรักที่เขาให้นางไปนั้นไม่เคยจางหายไปเลยตั้งแต่วันที่ได้เจอกัน –
ยิ่งเขากอดแน่นเท่าไหร่ เมน่าก็ยิ่งรู้สึกผิดเท่านั้น
ภาพที่เธอเสพสังวาสกับเซอร์อาทูร่านั้นยังคงวนเวียนอยู่ภายในหัว
เธอไม่สามารถลบภาพนั้นออกไปจากจิตใจได้เลยแม้จะอยู่ในอ้อมกอดของชายคนรักแล้ว เพราะเธอนั้นได้ทำลายศักดิ์ศรีของเขาไปจนไม่เหลือชิ้นดีแล้ว
แต่กระนั้น ทั้งคู่ก็ยังกอดกันอยู่
เมฟ กอดเธอไว้แน่นราวกับว่าจะไม่ให้เธอไปในอีกแล้วในชีวิตนี้
เขาบอกรักเธอดังเช่นที่เคยพูดอยู่ทุกวัน ความอ่อนโยนจากชายคนรักนั้น
ช่วยประโลมความรู้สึกบอบช้ำของหญิงสาวได้เป็นอย่างดี เธอค่อยๆโอบกอดเขา จากคำขอโทษนั้นก็กลายเป็นคำบอกรักเช่นกัน
“น่าเบื่อ...น่ารำคาญ...” เอวา-ร่า
สบถขัดจังหวะขึ้นมาพร้อมทั้งถลึงตาโกรธแค้นไปที่สองคู่รักตรงหน้า
แผนของเธอที่อุตส่าห์ลงแรงทำไปกลับพังไม่เป็นท่า – เธอเงยหน้ามองเซอร์น๊อตติ้งซึ่งยืนอยู่ถัดจากพวกเขาด้วยสายตาที่ไม่พึงพอใจเป็นอย่างยิ่ง
เซอร์อาทูร่าหันมามองนายหญิงเพื่อรอคำสั่งต่อไป
“ถ้ามันรักกันมากนักล่ะก็ เซอร์น๊อตติ้ง จับนังหมูชั้นต่ำนี้ไปให้ทหารทั้งกองของเราลงแขกเหมือนบรรดานังลูกๆกบฏ
ส่วนไอ้เด็กเมื่อวานซืนเอาลงเป็นทาสให้ตายภายใน3วัน..ข้าไม่ต้องการมันอีกต่อไปแล้ว”
เมื่อออกคำสั่งเหี้ยมโหดเสีย
นางก็ตบเท้าเดินขึ้นวังไปด้วยความไม่สบอารมณ์ทันที
โดยมีเซอร์อาทูร่าและเซอร์แอฟโฟร่ตามไปอย่างเงียบๆ
เป็นที่รู้กันว่าเมื่อนางหญิงหงุดหงิด อย่าได้บังอาจไปกวนใจนางเด็ดขาด
อัศวินหนุ่มพาทั้งคู่ลงไปที่ชั้นล่าง
และชักดาบออกมา.. สายตาลังเลชั่วครู่ก่อนที่จะหนักแน่นตรง เขาจ้องตากับเมฟและพยักหน้าให้เขา
ราวกับว่าต้องการจะบอกอะไรซึ่งมิอาจจะพูดออกมาได้ – “ขอบคุณครับท่านอัศวิน.. ขอบคุณ..” ชายหนุ่มยิ้มและคว้าตัวภรรยามากอดไว้
จูบเธอด้วยความรู้สึกอ่อนโยนที่สุดเท่าที่เขาจะให้เธอได้
เธอจูบรับและยิ้มตอบด้วยความปิติที่ระยะสุดท้ายนั้นจะได้มาบรรจบพร้อมกับคนรัก
“เพื่อประชาชน...” เซอร์น๊อตติ้ง เอ่ยออกมาและเสียบคมดาบเข้าไปที่หลังของ โมฟาเลส
บาร์ดอร์ ปลายดาบนั้นเสียบทะลุไปถึง เมน่า บาร์เดอร์
ซึ่งอยู่ในอ้อมกอดของสามีนางเช่นกัน – ทั้งคู่เสียชีวิตลงในอ้อมกอดของกันและกัน
รอยยิ้มแห่งความปิติที่ได้พบกันอีกครั้งยังคงอยู่แม้วิญญาณจะออกจากร่างไปแล้ว
เซอร์น๊อตติ้ง
ชักดาบออกมาปักลงกลับพื้นและอธิษฐานขอให้ทั้งคู่ได้ไปรักกันต่อที่โลกหน้า
เขารู้สึกดีขึ้นอย่างบอกไม่ถูกเมื่อได้จบโศกนาฏกรรมที่นายหญิงของเขาได้ก่อขึ้นมาเสียที
.. เรื่องทั้งหมด.. มันเกิดขึ้นเพราะความใคร่และความอยากได้ของคนอื่นแท้ๆ
อัศวินหนุ่มนำร่างของทั้งสองไปฝังไว้ที่บ้านของพวกเขาซึ่งถูกสั่งเผาไปเรียบร้อยแล้ว
เพื่อให้เขาทั้งคู่ได้อยู่ร่วมกันไปตลอดกาล– โดยหารู้ไม่ว่า เหตุการณ์ทั้งหมดที่เขาได้ทำลงไปนั้น
ตกอยู่ภายใต้การสังเกตการณ์ของ เซอร์ไกอา องครักษ์ผู้ซื่อสัตย์ของแม่ทัพหญิง
เอวา-ร่า ทอตต์ มาตลอดเวลา...
“คิดว่าเป็นน้องชายของนายหญิงแล้วจะทำอะไรก็ได้งั้นหรือ..
เจ้าหนุ่ม.. หึ เจ้าคงจะต้องงัดกับข้ากันยาวแล้วล่ะเกมนี้” เขากัดแอปเปิ้ลเขียวพร้อมทั้งโยนมันทิ้งไป
หัวเราะเบาๆในลำคอใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความกระหายการต่อสู้..
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น