รสนิยมของปอน
ไม่กี่วันต่อมาหลังจากนั้น ปอน
ก็ออกจากโรงพยาบาลและกลับไปใช้ชีวิตนักศึกษาชั้นปีที่สามตามปกติ..
ไร้ซึ่งอาการเจ็บป่วยทางกายแล้ว แต่ทางใจนั้นยังขาดสิ่งเติมเต็มอยู่.. – ปอน
ไม่ได้ติดต่อกับ พี่ต๋อง ไปพักใหญ่
เธอใช้เวลาส่วนมากอยู่กับการอ่านตำราเรียนเพื่อเตรียมสอบเลือกสถานที่ฝึกงาน ชัย
มาหาเธอบ้างในบางครั้ง แน่นอนว่าทั้งสองกลับมาคืนดีกันแล้ว
แต่กระนั้นแล้ว ชัย ก็ยังคงเคลือบแคลงใจในตัวแฟนสาวอยู่
เขายังไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจนเลยว่า ปอน ทำอย่างนั้นไปทำไม... –
แต่อย่างไรเสียด้วยนิสัยสุภาพบุรุษเป็นทุนเดิมประกอบกับอาการป่วยของ ปอน
ซึ่งพึ่งจะหายดีมาและ ปอน นั้นยังคงวุ่นวายอยู่กับการท่องตำรานั้น
ทำให้ชัยเลี่ยงที่จะพูดเรื่องนี้ออกไป ไม่ให้กวนใจแฟนสาว เพราะเดี๋ยวพูดไปก็รั้งแต่จะมีปัญหากันซะเปล่า
.. แต่ก็ใช่ว่าความไว้ใจของเขานั้นจะกลับมาเป็นเหมือนเคย..
ปอน พักเรื่องใต้สะดือไว้ก่อนและมุ่งมาศึกษาตำราอย่างจริงจัง
จนในที่สุดเธอก็สามารถสอบเข้าไปฝึกงานที่บริษัทผลิตสื่อชื่อแห่งหนึ่งได้ด้วยคะแนนที่ไม่น่าเกลียดเลยทีเดียว
นับเป็นความสำเร็จก้าวเล็กๆของนักศึกษาคนหนึ่ง
“เอาล่ะ... ต้องเต็มทีละนะ..” สาวน้อยบอกกับตัวเองในขณะที่กำลังจับกระดุมเรียงเม็ดให้มิดชิดอยู่
เธอรวบผมเก็บไว้เปิดหน้าผากให้ดูเรียบร้อยเป็นทางการ
เสริมความมั่นใจด้วยน้ำหอมและเครื่องสำอางบางๆก่อนที่จะออกจากห้องไปและขึ้นรถแท็กซี่มุ่งสู่สถานที่ฝึกงาน..
ปอน มาหยุดอยู่ที่หน้าตึกสูงใหญ่
มีป้ายอักษรโลหะประทับอยู่ที่หัวตึกว่า ‘บริษัท เอรา จำกัด ผลิตสื่อวีดีโอและอื่นๆ’
– นี้คือสถานที่ฝึกงานของ
ปอน นั้นเอง...
เธอรู้สึกเกร็งๆเล็กน้อยเนื่องจากเป็นครั้งแรกที่ได้มาเยือนที่นี้..
สาวน้อย ค่อยๆก้าวเท้าขึ้นบันไดอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้ตัวเองต้องมาสะดุดล้มจนหน้าอับอายในวันแรก..
–
บริเวณหน้าตึกนั้นเต็มไปด้วยพนักงานวัยกลางคนซึ่งเดินก้มหน้าก้มตาสวนกันไปมาราวกับหุ่นยนต์
บ้างก็กดโทรศัพท์เล่น บ้างกินอาหารเช้าอย่างเร่งรีบ.. สำหรับ ปอน
แล้วมันช่างแปลกตาเหลือเกิน
แต่ก็ช่างเถอะถ้าให้หยุดจนใจทุกอย่างเดี๋ยวจะไม่ได้ทำอะไรกันพอดี –
ปอน เดินขึ้นไปจนถึงประตูทางเข้าบริษัทซึ่งเปิดต้อนรับเธอโดยอัตโนมัติ.. –
ที่ชั้นล่างนั้นมีเคาท์เตอร์ต้อนรับอยู่
พนักงานงานสาวสวยสองคนทำหน้าที่เป็นผู้แนะนำและแลกบัตรของผู้มาเยือน
“สวัสดีค่ะ” ปอน เข้าไปไหว้ทักทายอย่างสุภาพด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม – “สวัสดีค่ะ
ติดต่ออะไรคะ” พนักงานสาวตอบกลับด้วยรอยยิ้มเช่นกัน
“ฝึกงานค่ะ...” สาวน้อยตอบ --
พนักงานสาวอีกคนเดาได้ทันทีจากชุดที่เธอใส่มา
“อ่อ..คุณพรชิตา อักษรศิลป์ ใช่ไหมคะ
นี้ค่ะบัตรประตัวของคุณ..ตัวจริงสวยกว่าในรูปอีกนะคะ..” พนักงานต้อนรับเอ่ยชมพร้อมทั้งยื่นบัตรประจำตัวให้เธอ..
ปอน มองดูรูปในบัตรแล้วก็อดขำไม่ได้
นี้มันเป็นรูปถ่ายสมัยเมื่อเธอยังอยู่ปีหนึ่งใส่แว่นหน้าคล้ำยังไม่ได้รู้จักดูแลตัวเองเหมือนปัจจุบัน..”คุณต้องติดบัตรไว้ตลอดเวลาที่ฝึกงานนะคะ
มิฉะนั้นแล้วถ้าหากอาจารย์ของคุณมาตรวจอาจจะถูกหักคะแนนได้..”
“ค่ะ..ขอบคุณนะคะ...แล้วหนูต้อง...”
“ชั้น 19 เลยจ๊ะ...ฝ่ายสื่อ..บอกมาฝึกงาน..”
“ขอบคุณนะคะ..” ปอนไหว้ลาเมื่อได้รับข้อมูลที่ต้องการแล้ว
เธอติดบัตรประจำตัวไว้ที่หน้าอกและเดินขึ้นลิฟต์ไปยังชั้น 19
ไม่ช้าลิฟต์ก็พาสาวน้อยมาถึงจุดหมาย –
ไม่มีผู้โดยสารท่านใดลงมาพร้อมเธอเลย.. ที่ชั้น19นั้นมีทางเข้าห้องอยู่สองฝั่ง
ฝั่งหนึ่งเป็นกระทบใสเห็นด้านในเป็นโต๊ะทำงานและโซฟารับแขก
ส่วนอีกด้านนั้นเป็นกระจกทึบมืดมองไม่เห็นด้านในเลยนอกจากเงาที่เคลื่อนไหวมาเป็นระยะ..
“อ้าว...มาฝึกงานเหรอครับ..” เด็กหนุ่มในชุดสูทซึ่งยืนรออยู่ที่หน้าห้องกระจกใสเอ่ยทักทาย
ปอน
“ใช่ค่ะ...พี่..เป็นพี่เลี้ยงเหรอคะ..” ปอน
ยกมือไหว้ดักก่อนตามมารยาท – ชายตรงหน้ารีบทำท่าปัดมือลงทันที
“ไม่ใช่ครับ...ผมมาฝึกงานเหมือนกันครับ...ชื่อ วุด นะครับ..” เขาแนะนำตัวด้วยเสียงเป็นมิตร
ใบหน้านั้นยิ้มแย้มอยู่ตลอดเวลา
“อ้าวเหรอ...ปล่อยไก่เลยเรา แหะๆ..” ปอน
หัวเราะแห้งๆด้วยความเขินอายเล็กน้อย “เรา ปอน นะ..”
สนทนากันได้ไม่นาน
ครูพี่เลี้ยงตัวจริงก็โผล่มาจากห้องกระจกทึบฝั่งตรงหน้า –
เขาเป็นชายวันกลางคนหนวดเครารุงรังใบหน้าเต็มไปด้วยริ้วรอย
มองผ่านๆเหมือนพวกโจรมากกว่าคนทำงานออฟฟิศ
ทั้ง ปอน และ วุด รีบหันไปสวัสดีชายคนนั้นทันที – “สวัสดีครับ/ค่ะ”
“อืม สวัสดีครับ.” เขารับไหว้ด้วยเสียงขรึม ใบหน้านิ่งเฉยดุจสายน้ำ “ผมชื่อ ฟลุค
นะครับ จะมาดูแลพวกคุยตลอดสามเดือนนี้.. สำหรับผม
คะแนนที่จะหักมีเพียงขาดฝึกงานเท่านั้น สายผมไม่ว่า
แต่ถ้าไม่ได้ความรู้แล้วทำแบบทดสอบผมไม่ได้ก็คือไม่ผ่าน ผมไม่ช่วยแน่นอน..”
เสียงแนะนำตัวอันจริงจังนั้นสะกดนักศึกษาสองคนไว้นิ่ง
ทั้งสองตั้งใจฟังทุกคำพูดมิให้ขาดตกบกพร่องไป
“รอบนี้จะมีแค่พวกคุณสองคนเท่านั้น... อย่างที่รู้กันว่า
บริษัทของเรามีแบบทดสอบก่อนเข้ารับการฝึกงาน..เอาล่ะ... เสียเวลามากแล้ว
เชิญทางนี้ดีกว่า..” ฟลุค ผายมือไปทางประตูห้องกระจกทึบและเดินนำไปก่อน
ที่ข้างประตูนั้นมีสวิทซ์สำหรับเสียบคีย์การ์ดอยู่.. เขาใช้คีย์การ์ดที่ห้อยคออยู่รูดที่แผงนั้น
และประตูก็เปิดออกทันที “ประตูนี้..ถ้าไม่ได้มากับผม.. ห้ามเข้าครับ..”
ปอน เดินตามหลัง วุด ไปด้วยอาการอึดอัดเล็กน้อย
เธอสัมผัสได้ถึงความเป็นมืออาชีพและความจริงจังของสถานที่แห่งนี้..
จะทำเป็นเล่นๆไม่ได้แล้วล่ะ – ภายในห้องนั้นมีโซฟาตั้งอยู่กลางห้อง
ส่วนกำแพงซ้ายขวาซึ่งอยู่ห่างกันไม่ถึงสิบเมตรนั้นมีประตูไม้สองบานเป็นทางออกไปอยู่..
ทั้งสามนั่งลงที่โซฟากลางห้อง –
ฟลุคนั่งกอดเอาขาขึ้นมาไขว้ห้างไว้และเริ่มสังเกตนักศึกษาทั้งสอง “ต่อไปจะเป็นการสัมภาษณ์เล็กๆน้อยนะ...ไม่ต้องซีเรียส
แต่ถ้าผมเห็นว่าไม่ผ่านคุณหาที่ฝึกงานใหม่ได้เลย โอเคนะ...”
ทั้งสองหันมามองหน้ากันพร้อมทั้งยิ้มเจือนๆ... – ไม่ซีเรียสได้ไงล่ะ!!
วุดเริ่มแนะนำตัวก่อน ตามด้วย ปอน
น้ำเสียงของทั้งคู่นั้นตะกุกตะกักด้วยความกดดันเมื่อถูกจ้องมองด้วยสายตานิ่งเฉย
“อืม..ที่จริงก็พอจะศึกษาทั้งคู่มาบ้างแล้วล่ะ..” ฟลุค
วางขาลงและกวาดสายตามองทั้งคู่สลับกันไป “น้องวุด ยังไม่มีแฟน ส่วนน้องปอนมีแฟนแล้ว..
ได้คุยกับแฟนแล้วใช่ไหมที่จะมาฝึกงานที่นี้น่ะ...”
“อ่อ ก็บอกแล้วค่ะ
เขาก็ไม่ว่าอะไร...หนูก็ตั้งใจอ่านหนังสือสอบมาเต็มที่เลย...” ปอน
ตอบและพยายามจะยิ้มออกมาให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ในสถานการณ์กดดันเช่นนี้ “ก็เต็มที่แหละค่ะ...
พร้อมจะเรียนรู้ทุกอย่าง..”
“อืม..ตอบดี... วุดล่ะ..คิดยังไงกับ ปอน..” เป็นคำถามชวนสับสนเล็กน้อยสำหรับ ปอน
และกระนั้นแล้วเธอก็ยังคงฉีกยิ้มค้างไว้อยู่
“ดีครับ ผมว่า...” วุด หันไปมอง ปอน จากหัวจรดลงมาถึงกระโปรง.. “หน่วยก้านดี..เหมาะกับบริษัทนี้ครับ..”
ฟลุค
พิงหลังไปกับโซฟาและเอามือทั้งสองมาประสานไว้ที่ท้ายทอยก่อนที่จะส่ายหน้าเบาๆ
พร้อมทั้งถอนหายใจ
“หน่วยก้าน...ไม่เหมาะครับ..คุณวิเคราะห์จุดนี้พลาด..”
“อะ...เอ่อ...” วุด
หน้าถอดสีทันทีเมื่อรู้ตัวว่าตนนั้นพลาดอะไรบางอย่างไปแล้ว
สูทตัวนอกทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกร้อนรนแม้จะนั่งอยู่ภายในห้องแคบที่มีแอร์เย็นไหลวนอยู่ทั่วก็ตาม
“คือว่า...เป็นสไตล์ที่คล้ายคลึงกับ... แอปเปิ้ล สมาย...”
แอปเปิ้ล สมาย?.. ปอน หันไปมองหน้าวุดด้วยความสงสัย
สองคนนี้กำลังตอบโต้บทสนทนาบางอย่างที่เธอนั้นไม่เข้าใจเลย...
พูดเรื่องอะไรกันเนี้ย..
“โอ้ว..รู้จักด้วยหรือ..นั้นนานมากแล้วนะ..” แววตาของครูพี่เลี้ยงลุกโชนขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินชื่อนั้น...
วุดโล่งอกขึ้นมาทันที เขาขยับร่างกายเล็กน้อยจัดท่าทางในการนั่งใหม่ก่อนที่จะเริ่มพูดต่อไป..
“คือว่า
ผมเคยเห็นมาครั้งหนึ่งครับ...แบบว่า..เป็นอะไรที่แหวกแนวมากสำหรับที่นี้..เพราะดาราที่นี้
ส่วนใหญ่จะเป็น..แบบทรงโตเอวสะบึ้ม..พิมพ์นิยม อะไรประมาณนี้แหละครับ...”
“ว้าว..รู้ลึกรู้จริง...พูดต่อสิคุณ...” รอยยิ้มชื่นมื่นปรากฏขึ้นบนใบหน้าของฟลุคอย่างน่าอัศจรรย์
ปอนจ้องดูทั้งสองคุยกันด้วยความสับสนงุนงง..เธออยากจะมีส่วนร่วมในบทสนทนาอันแสนจะตื่นเต้นนี้ด้วยจัง
แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเข้าไปแทรกอย่างไรดี
“ฮะๆ ขอบคุณครับ ความจริงแล้วก็ไม่ค่อนเชี่ยวชาญเท่าไหร่..แต่ผมมองว่าจุดเด่นของบริษัทนี้ก็คือ
การเล่นจริง เจ็บจริงนี้แหละครับ
เป็นจุดแข็งที่ทำให้บริษัทยังคงอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้
แม้ว่าเศรษฐกิจจะแย่ลงก็ตาม..”
ฟลุค
ดิ้นนิ้วดังเปาะพร้อมทั้งปรบมือให้กับการวิเคราะห์ของนักศึกษาชายตรงหน้าพลางหัวเราะชอบใจออกมา
“ยอดเยี่ยม...คุณผ่าน...ยินดีด้วย...แล้วคุณล่ะ ปอน
มองบริษัทของเราไปในทิศทางไหนบ้าง..และคุณคิดว่าคุณพร้อมแค่ไหนกับการมาฝึกงานครั้งนี้...เอาข้อมูลเล็กๆน้อยๆก็ได้...”
เป็นทีของเธอบ้างที่จะได้แสดงวิสัยทัศน์ต่อหน้าเขา – ปอน
เริ่มท่องตามสคริปที่ได้จัดเตรียมไว้มากว่าสองอาทิตย์แล้ว
บทพูดนั้นผ่านการขัดกลัดมาจากเพื่อนๆทั้งกลุ่มเป็นบทพูดที่ดีมากเลยทีเดียว
แต่...นี้ไม่ใช่สิ่งที่ ฟลุค ต้องการ เขาส่ายหน้าและหุบยิ้มทันที..
“เอาจากใจครับ คุณ ปอน ..”
“เอ่อ.คือว่า...
บริษัทนี้...ตั้งอยู่ใน...จุดที่ดีค่ะ...ตึกสวย...อากาศถ่ายเท...ไม่อึดอัด...”
“คุณปอน...”
“อ่า...ฉัน ชอบ..เอ่อ....”
คำพูดต่อไป..ต้องคิดดีๆ..
สีหน้าของผู้ตัดสินนั้นเริ่มแสดงออกชัดแล้วว่าเธอนั้นกำลังขาดคุณสมบัติ “เอ่อ..ฉันเองก็..ชอบ
แอบเปิ้ล สมาย เหมือนกันค่ะ...คือ..แบบว่า
เป็น...เอ่อ..ต้นแบบในฝันเลย..ฉันถึงได้..คือ..ตอนแรกฉันกลัวว่า..ถ้าพูดเหมือนวุดไปแล้ว...มันจะดูเหมือนลอกกันค่ะ...ก็เลย....แหะๆ...”
ไหลลื่นเอาตัวรอดตามสถานการณ์ไม่ใช่สิ่งที่ ปอน ถนัดเท่าไหร่
แต่ใบหน้าจิ้มลิ้มน่ารักและยิ้มแย้มอยู่ตลอดเวลาของเธอนั้น สามารถซื้อใจ ฟลุค ได้
“ปัดโถ่ว...เรื่องแค่นั้นเอง..คนเรามันชอบเหมือนกันได้..ไม่เห็นต้องกลัวเลย
แล้วเมื่อกี้...คุณบอกว่า เป็นต้นแบบในฝัน.งั้นก็หมายความว่า คุณอยากเป็นแบบ
แอปเปิ้ล สมาย ใช่ไหมครับ?”
ซวยล่ะสิ..แอปเปิ้ล สมาย คืออะไรหว่า!?
เกิดมาไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนเลย...แต่สถานการณ์ตรงหน้ามันบีบคั้นเข้ามาแล้ว
“ค่ะ...ใช่ค่ะ...ฉันอยากจะเป็นเหมือนแอปเปิ้ล
สมาย..ทุกอย่างเลยค่ะ...เธอเป็นคนที่ยอดเยี่ยมมาก..” ปอน
พยักหน้าตอบไปมั่วๆ เอาตัวรอดไปพลาง..
“ว้าว..เราได้คนน่าสนใจมาร่วมงานถึงสองคนแล้ว..
อืม...ผมยินดีกับคุณทั้งสองด้วยนะ ..ผ่านทั้งคู่ครับ...”
อะไรก็ไม่รู้แหละ..แต่ผ่านมาได้ก็ดีแล้ว..เอาไว้ข้อมูลอื่นๆค่อยไปถามจากวุดเอาก็ได้..
ปอน ปลอบใจตนเองและนึกสมเพชที่ตนนั้นไม่ยอมศึกษาข้อมูลของบริษัทมาให้ดีเสียก่อน..
เธอรู้เพียงแค่พื้นๆว่า การที่จะเข้ามาฝึกงานที่นี้ได้จะต้องสอบเข้ามา
และรู้ว่าที่นี้ผลิตสื่อวีดีโอ..แค่นั้นเอง..
“ถ้าอย่างนั้น...ปอน เตรียมพร้อมมาแล้วใช่ไหม..” ฟลุคหันมาทาง
ปอน และเอ่ยถาม – สาวน้อยยิ้มและพยักหน้าตอบหลอกๆไปอีก
อะไรกันอีกว่ะเนี้ย...เตรียมพร้อมอะไรกัน.. “วุดล่ะ…”
“พร้อมครับ...ที่ไหนดีครับ...” นักศึกษาตอบด้วยท่าทางองอาจพร้อมทั้งถอดสูทตัวนอกออกมาพาดแขนไว้
สีหน้าของเขาดูดีขึ้นมาทันทีเมื่อรู้ตัวว่าผ่านการทดสอบแล้ว
“ตรงนี้แหละ.. โซฟานั้นเลย..ปอน ถนัดแบบไหน...” ฟลุคชี้นิ้วไปที่โซฟาฝั่งที่
ปอน นั่งอยู่พร้อมทั้งยิงคำถามชวนฉงนมาอีกครั้ง
“เอ่ย...” ฉิบหายแล้ว...พูดเรื่องอะไรยังไม่รู้เลย..
“เป็นแค่การทดสอบเฉยๆ ...ไม่มีผลอะไรกับคะแนนหรอก
แค่อยากดูพื้นฐานและความเหมาะสมของคุณทั้งสอง...ว่าจะรวมเป็นหนึ่งกันได้หรือเปล่า”
กิจกรรมคู่สินะ...ถ้าเป็นกิจกรรมคู่ก็หมายความว่าให้อีกฝ่ายตัดสินใจให้ก็ได้..
เอาล่ะ พอจะมีทางรอดแล้ว
“อ่อ..หนู...เอ่อ..ฉัน...ได้หมดค่ะ..ให้วุด เลือกได้หมดเลยค่ะ...”
ปอน
หันไปทาง วุด และโปรยยิ้มหวานๆให้เขา –
ชายหนุ่มเข้าใจว่าเธอนั้นเข้าใจสถานการณ์ดี.. เขาหันไปพยักหน้ากับ ฟลุค
เพื่อตอบรับข้อเสนอ..
“ท่าหมายืน..เป็นยังไงครับ... ให้ ปอน จับแขนโซฟา..ท่านี้เป็นท่าโปรดของ
แอปเปิ้ล สมายเลยนี้ครับ ถ้าหากว่าได้เห็น ปอน ถูกทำในท่านี้
ผมว่าอาจจะทำให้ระลึกถึง แอปเปิ้ล สมาย ก็ได้นะครับ..”
ท่าหมายืน!? ทำในท่านี้!? – ปอน
เริ่มจะประติดประต่อข้อมูลได้แล้ว... หรือว่า..ไม่จริงน่า..แต่ต้องใช้แน่ๆ..
ภาพของวุดซึ่งกำลังรูดซิบกางเกงและควักเอาท่อนเนื้อยวบๆออกมาชักเร่งอยู่นั้น
ค่อนข้างจะให้คำตอบที่ชัดเจนกับ ปอน
นี้มันบริษัทถ่ายหนังโป๊นี้หว่า... แล้ว แอปเปิ้ล สมาย
อะไรนั้นก็น่าจะเป็นดาราหนังโป๊แน่ๆ... โถ่ เว้ย ยัยปอนเอ๊ย...
ทำไมถึงได้โง่เง่าอย่างนี้ จะมาฝึกงานก็เจือกไม่ศึกษาข้อมูลให้ดีๆก่อน...
ซวยแน่ๆ..จะถอนตัวก็ไม่ได้แล้ว
ขืนโวยวายไปรับรองได้ตกฝึกงานเรียนไม่จบพร้อมเพื่อนๆแน่ๆ...
เอายังไงดี...จะทำยังไงดี....
“ทำไมไม่ถอดเสื้อล่ะ วุด..” ฟลุคซึ่งนั่งอยู่โซฟาตรงข้ามเอ่ยถาม
“ผมอยากให้ภาพออกมาเป็นลักษณะ นักศึกษาสองคนร่วมเพศกันในชุดนักศึกษาน่ะครับ
ผมว่ามันได้อารมณ์วัยรุ่นวัยเรียนใจแตกดี...” วุด
ตอบและเดินเข้ามาโอบข้างหลัง ปอน “ไม่ต้องเกร็งนะครับ..เราจะทำให้เบาที่สุด...”
“เยี่ยมเลย...คุณนี้มีแววนะวุด.. ถ้างั้น ปอน ล่ะ คุณว่า
คุณจะถอดอะไรบ้างดี...”
เป็นการเริ่มต้นการมีเซ็กส์ที่ค่อนข้างจะน่าอึดอัดและเป็นทางการจนเกินไป...
– ตอนนี้ในหัวของ ปอน นั้นไม่ได้คิดอะไรมากแล้วนอกจากตามน้ำไป...
เมื่อครู่วุดพึ่งจะพูดว่า อยากให้นักศึกษาร่วมเพศกันในชุดนักศึกษา..อืมม
ถ้าอย่างนั้นก็ต้องทำอย่างนี้สินะ...
ปอน เริกเสื้อนักศึกษาขึ้นจนบราโผล่ออกมา จากนั้นก็ถกกระโปรงขึ้นมากองไว้ที่สะโพกก่อนที่จะถอดกางเกงในออกไป
รู้สึกเขินเล็กน้อยเมื่อสายตาของฟลุคนั้นจ้องมองมาที่บั้นท้ายของเธออยู่ตลอดเวลา..แต่เขาไม่ได้จ้องมาด้วยสายตาหื่นกามนะ
เป็นสายตาที่เปี่ยมไปด้วยการวิเคราะห์พิจารณามากกว่า
“ฉันคิดว่า... การปกปิดส่วนหน้าอกไว้ในระหว่างที่มีเซ็กส์ท่ายืนในสถานที่ที่ค่อนข้างจะสาธารณะนั้น
แสดงให้เห็นถึงการเตรียมพร้อมในการหลบเลี่ยงผู้คน...ในกรณีฉุกเฉิน...”
ปอนอธิบายแถๆไป ความจริงแล้ว
เธอแค่ไม่อยากเปลื้องผ้าต่อหน้าชายแปลกหน้าทั้งสองเท่านั้น...
“เยี่ยมๆ...ความคิดดีๆ...” ดูเหมือนว่าเรื่องกุของเธอจะได้ผล.. “เอาล่ะ... ปอน
คุณมีน้ำหรือยัง..ให้วุดเล้าโลมให้ไหม...”
นี้จะเสียบกันจริงๆใช่ไหมเนี้ย ไม่ใช่แค่ถ่ายแบบใช่ไหม...
ปอนเริ่มกังวลใจเล็กน้อยแล้ว...แต่ The show must go on
เธอจับที่เนินสาวของตนลูบไปมาคลำหาเม็ดสยิว...
เมื่อเจอแล้วก็เขี่ยมันรัวๆเรียกน้ำหล่อลื่นออกมาเตรียมพร้อมสำหรับการสอดใส่...
แต่ทว่าบรรยากาศโดยรอบนั้นมันตื่นเต้นเกินไป...
ชายทั้งสองจ้องมองมาตาเป็นมัน.. ควย ของ วุด
นั้นแข็งตั้งพร้อมเสียบเรียบร้อยแล้ว.. ชายหนุ่มหยิบเอาถุงยางอนามัยออกมาสวมอย่างชำนาญจากนั้นก็ชโลมไส้กรอกด้วยเจลหล่อลื่นใสๆ
“มาครับ ปอน เท่านี้ก็น่าจะโอเคแล้ว..” วุด
สาวควยเป็นประจักษ์พยานพร้อมทั้งเชื้อเชิญ ปอน
ให้เข้ามาใกล้ๆและแอ่นเอวขึ้นให้เขาเย็ดได้ถนัด..
โดนควยคนแปลกหน้าอีกแล้วสิเนี้ยเรา...เฮ้อ.... ปอน
เดินไปหยุดที่อยู่โซฟา ก้มโค้งลงไปเอามือยันที่แขนโซฟาไว้... –
วุดจับเอวคอดเว้าของปอนไว้พร้อมทั้งปรับดันขึ้นดันลงเล็กนอน..
พอได้ระดับที่เหมาะสมแล้วเขาก็จัดการเสียบควยลื่นๆเข้าไปในร่องหีของเธอทันที...
“อุ้บบบ...อื้มมมม....อ๊ะ....ซี้ดดดด....” ปอนสะดุ้งโหย่งทันทีเมื่อควยของเพื่อนนักศึกษาฝึกงานด้วยกัน
ทะลวงเข้ามาลึกสุดทั้งดุ้น... พึ่งเจอกันไม่ถึงครึ่งชั่วโมงด้วยซ้ำ
เธอก็ต้องมาแอ่นหีให้เขาเย็ดเสียแล้ว... ทำไมเธอถึงได้ง่ายอย่างนี้นะ..เฮ้อ...
แต่...พอคิดแบบนี้แล้ว..ก็ดันมีอารมณ์ร่วมตามซะอย่างนั้น... ซี้ดด...ข่ม
ฉันอีกสิ...ทำให้ฉันไร้ค่าเลยสิ....ซี้ดดด...ฉันมันง่าย...หีสาธารณะ
ใครจะเย็ดก็ได้อยู่แล้ว...ขนาดหมายังเย็ดได้เลย...
“ฟู่ววว...ถึงจะลื่น...แต่ก็ยังฟิตนะครับ.... สงสัยปอน
จะไม่ได้...เอากับแฟนบ่อยๆ...”
“ซี้ดดด...อื้มมมม ของวุด...ใหญ่จัง...อ๊างงงง...อ๊ะ....แรงอีกสิ....ซี้ดดด....กระแทก...แรงๆสิ....อื้มมมมม....”
ลีลาการครางของปอนนั้นต้องใจทั้ง ฟลุค และ วุด
เธอเปลี่ยนจากสาวน้อยใสซื่อผู้เขินอายเกรงกลัวกับคำถามกดดัน เป็น
สาวน้อยร่านควยผู้พร้อมจะลุยถูกสนามเกมสวาท...
วุดจับเอวปอนไว้แน่น ดึงเธอเข้ามาใกล้ๆ
พร้อมทั้งกระแทกควยบุกเข้าไปอย่างไม่ยั้งมือ.. ซี้ดดดด... ยิ่งแรง
สาวน้อยยิ่งครางเสียงดัง..ยิ่งเสียงดัง..เธอก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองถูกข่มเหงให้เสียวอยู่....และสิ่งนี้เอง..ก็กลับกลายเป็นพลังแห่งความเสียวย้อนกลับไปให้เธอได้
แสดง อากัปกิริยาร่านๆออกมา....
“อูยยยย....โอยยยยย วุด....อื้มมมม เสียวหี.....ที่สุดเลย.....อื้มมมมม
อี้ยยยยยย....”
“ซี้ดดด...ปอน สุดๆเลยว่ะ......ซี้ดดด...โคตรแน่น...”
ชายหนุ่มถึงกับปาดเหงื่อ
ออกจากหน้าผากเมื่อหญิงสาวกระแทกเอวสวนกลับไปในจังหวะที่เขาแทงควยซอยหีเธอ...
เขายกขาซ้ายของเธอขึ้นมาเพื่อที่จะได้สอยหีจากมุมเงยได้ถนัด...ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกันเลย...
แต่พวกเขาคงจะไม่ทันได้รู้สึกตัวล่ะมั้ง
ว่าในชั้น19แห่งนี้นั้นไม่ได้มีเพียงพวกเขาอยู่กันสามคน –
เสียงบรรเลงเพลงรักของทั้งสองนั้นดังสนั่นไปทั่วไม่ว่าจะเป็นเสียงเนื้อกระแทกกันดัง
ตับ ตับ หรือเสียงครางเสียวก็ตาม ซึ่งเสียงเหล่านั้นได้ดึงดูดพนักงานคนอื่นๆที่มาทำงานแล้ว
ให้เข้ามาสนใจสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในห้องนี้... หนังสดระหว่างนักศึกษาฝึกงานสองคนนั้นเป็นอาหารตาในยามเช้าได้ดีเลยทีเดียว
พอรู้ตัวอีกที...พนักงานก็เข้ามาอยู่กันเต็มห้องแล้ว – แต่ช่างมันเถอะ..
ทั้งคู่พากันไปถึงจุดที่จะวกกลับมาไม่ได้อีกแล้ว... จากการทดสอบเล็กๆน้อยๆ
เริ่มกลายเป็นการเอาจริง... วุดจับ ปอน ลงนอนที่โซฟา
ยกขาทั้งสองของเธอพาดบ่าไว้และจากนั้นก็จัดการเสียบไอ้หนูหุ้มพลาสติกเข้าไปในร่องสาวชุ่มๆของเธอ
... ปอน ถึงเขาเข้าไปกอดไว้แน่นราวกับว่าเธอนั้นเป็นเจ้าของร่างกายของเขาทั้งหมด...
“เอาล่ะ...พอก่อน!!” ฟลุคตะโกนเสียงดังขึ้นมา...
เรียกสติทั้งคู่กลับคืนมาได้ทันที... – วุดรีบลุกขึ้นมาจากตัวของ ปอน
ดึงถุงยางอนามัยออก เก็บไอ้หนูข้าฝักรูดซิบอย่างรวดเร็ว
จากนั้นก็รีบส่งกางเกงในของปอนซึ่งตกอยู่ที่พื้นคืนให้เธอได้สวมใส่
ทั้งคู่หน้าแดงก่ำทันทีเมื่อเห็นว่ารอบๆห้องนั้นเต็มไปด้วยพนักงานของบริษัทแห่งนี้..บางคนก็หัวเราะคิกคักในขณะที่มองมาที่ทั้งสอง
บางก็ควักเอาไอ้หนูของตัวเองมาสาวว่าวรับลมตอนเช้า...ช่างเป็นวัฒนธรรมที่แปลกตาเหลือเกิน...
“ทั้งคู่..ยอดเยี่ยมมาก..เดี๋ยวมากับผมทางนี้..ขอทางด้วย...ขอทางหน่อย...” ฟลุคเอ่ยชมและเดินนำทางทั้งคู่ไปที่ประตูทางซ้ายมือ
– ปอน เดินก้มหน้าตามวุดไป..เขากุมมือเธอไว้แน่นเพื่อไม่ให้พลัดหลงไป
ในที่สุดทั้งคู่ก็เข้ามาในห้องได้สำเร็จ..
มันเป็นห้องแคบๆที่มีเตียงและโซฟาเท่านั้น
จากสภาพแล้วก็พอจะเดาได้เลยว่านี้คือฉากหนึ่งในหนังโป๊แน่ๆ...
“ผมจะพูดทีละอย่างก่อนนะ..อันดับแรกในส่วนของการแสดงทางเพศพวกคุณผ่านกันแล้วไม่ต้องอะไรมากเลย..”
ทั้งคู่หันมายิ้มให้กันราวกับว่าเป็นเรื่องน่าภูมิใจนักหนา..
“แต่...ก็ยังมีส่วนที่ต้องปรับปรุงแยกรายคนไป...เริ่มจากวุดก่อนเลย...คุณแรงดีนะ..จังหวะก็สม่ำเสมอแลอึดใช้ได้
ข้อเสียของคุณมีเพียงแค่การวางมือและการแสดงออกทางสีหน้าเท่านั้น...
คุณต้องเกร็งหน้าให้มากกว่านี้หน่อย...อย่าทำหน้าเสียวจนเกินไป..เราเป็นผู้กระทำ
ต้องเย็ด...ขอโทษนะขอใช้คำนี้เลยละกัน...ต้องเย็ดไปเก๊กไปให้เหมือนกับว่าหีตรงหน้านั้นไม่ใช่ปัญหาอะไรมากมาย
เหมือนกับกินเยลลี่นิ่มๆ...”
วุดหยิบสมุดเล่มเล็กขึ้นมาจดคำสอนของฟลุคอย่างตั้งใจ...
“ส่วน ปอน
คุณเป็นผู้หญิงเป็นฝ่ายรับ...การแสดงสีหน้าของคุณผ่านแล้ว...คุณต้องแสดงให้คนดูเห็นว่าคุณนั้นเสียวมากจากการโดนเย็ด...แม้ว่าควยของฝ่ายชายจะเล็กหรือเหี่ยวแค่ไหน
แต่ถ้ากล้องเปิดแล้วและมันเข้ามาอยู่ในหีของคุณ...คุณต้องจินตนาการให้ได้ว่าคุณกำลังโดนควยเก้านิ้วเย็ดอยู่..เข้าใจใช่ไหม...
ส่วนในเรื่องที่ต้องปรับปรุงนั้นสำหรับคุณคืออารมณ์ร่วมที่มากจนเกินงาม...ผมเข้าใจว่าคุณเสียวเพราะควยของวุดนั้นขนาดก็ไม่ใช่เล่นซะทีไหน..
แต่คุณจะต้องจำไว้ว่า
คุณจะต้องฝ่ายตามไม่ใช่รุกขึ้นมานำ...ผมหมายถึงในแง่ของคำพูดด้วย...ของคุณก็มีแค่นี้แหละ..ปรับนิดๆหน่อย
ก็ใช้ได้แล้ว ...อืม.. ผมให้คะแนน วุดที่8/10 ส่วนปอนนั้น 7/10
นะครับ...สำหรับวันนี้...”
ปอน ตั้งอกตั้งใจฟังคำวิจารณ์อย่างเต็มทีและเกือบจะหลุดขำออกมาแล้ว
เมื่อพึ่งมาสำนึกได้ว่าตนนั้นกำลังถูกวิพากษ์ในเรื่องของการมีเซ็กส์อยู่..นี้มันครั้งแรกของชีวิตเลยนะเนี้ย…
“เอาล่ะ..วันนี้ก็...จบลงแค่นี้แหละ...”
“ห๊า!!!” ทั้งสองอุทานขึ้นมาพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย...
“ไม่ยินไม่ผิดแล้วล่ะ..พวกคุณกลับบ้านกันได้แล้ว...อ่อ..แต่ผมจะบอกเอาไว้อย่างหนึ่งนะครับ..เรื่องมาตรฐาน..
สำหรับการฝึกงานกับทางเรานั้น.. ถ้าคุณได้คะแนนต่ำกว่า 5 เกิน 3 ครั้งเมื่อไหร่
จะถือว่าคุณสอบตกทันที..ระวังเรื่องนี้กันด้วยนะ..ฉะนั้นก็กลับไปทบทวนให้ดีล่ะ..ถ้าจะให้ดีก็ดูหนังของบริษัทเราประกอบไปด้วย
จะได้รู้ว่า.. บริษัทของเรานั้นชื่นชอบแนวไหน..แล้วก็บอกไว้แต่เนิ่นๆเลย...
ในการที่จะจบฝึกงานได้นั้น พวกคุณจะต้องทำวีดีโอขึ้นมาสองชุด...
ชุดแรกนั้นเป็นของส่วนตัวอยากจะออกแบบให้เป็นอย่างไหนก็ได้ตามใจเลยจะเล่นเดี่ยวหรือเล่นหมู่ก็เรื่องของพวกคุณ..
ส่วนอีกชุดนั้นคุณทั้งสองจะต้องถ่ายทำร่วมกัน..ในหัวข้อที่ทางเราจะกำหนดให้ในสัปดาห์สุดท้ายของการฝึกงาน...สงสัยอะไรกันไหม..”
ทุกอย่างนั้นประจักษ์แจ่มแจ้ง...นี้มันคือการเตรียมตัวเพื่อเข้าสู่วงการหนังโป๊ชัดๆ..
– ทั้งสองพยักหน้ารับอย่างไร้ข้อกังขา ก่อนที่จะไหว้ล่ำลา ฟลุค และออกจากห้องนี้ไปมุ่งตรงสู่ลิฟต์...
“นี้..วุด..” ปอนเอ่ยถามขึ้นมาในขณะที่ทั้งสองนั้นยังคงยืนอยู่ในลิฟต์ สีหน้าของเธอบ่งบอกได้ชัดเลยว่าต้องการความช่วยเหลือเป็นอย่างมาก
“ว่าไงหรือ..” วุดตอบพร้อมทั้งใส่สูทตัวนอกกลับคืน
“คือว่า...เรา..อยากจะถามเรื่องหนังของบริษัทหน่อย...พอดีว่าเราไม่เคยซื้อเลยซักแผ่นอ่า
วุดพอจะมีเวปแนะนำบ้างไหม..” ถึงแม้จะเป็นเรื่องแปลกที่ต้องมาฝึกงานที่บริษัทถ่ายหนังโป๊
แต่สำหรับ ปอน แล้วนี้ก็คือการฝึกงานเป็นส่วนหนึ่งของผลการเรียนที่เธอจะพลาดไม่ได้เป็นอันขาด
ดังนั้นแล้วอะไรที่พอจะช่วยเพิ่มโอกาสในการผ่านได้...เธอก็ไม่ลังเลเลยที่จะคว้ามันไว้
“อืม..” วุดกอดอกทำท่าคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ในเวปมันหายากนะ...ส่วนใหญ่จะเป็นแบบแค่ตัวอย่างหรือไม่ก็ตัดฉากอย่างว่าทิ้ง”
“เวรกำ..งี้ก็แย่ล่ะสิ..แล้ววุดดูจากไหนเหรอ...เห็นแลชำนาญ..”
“เรามีแผ่นอ่า...มีเกือบทุกชุดเลยนะ...ฮะๆ..
เป็นของพี่เราด้วยส่วนหนึ่ง...ก็นะ
หนุ่มโสดกันเรื่องพวกนี้มันก็เรื่องธรรมดานี้แหละ...”
“จริงเหรอ...มีแผ่น..เยอะเลยเหรอ...เราขอยืนดูบ้างได้ไหมอ่ะ..จะได้ศึกษาไปด้วย..”
สาวน้อยตาลุกวาวเมื่อความหวังนั้นอยู่ตรงหน้าแล้ว
“อืมม...ได้สิๆ..แต่เราว่า ปอน
ลองไปเลือกที่ห้องเราดีกว่า..จะได้รู้ด้วยว่าอันไหนถูกใจ..เพราะว่า
หนังมันก็มีหลายแนวนะ.เกิดได้อันที่ไม่ถูกใจไปจะเสียเวลาซะเปล่า..” วุดเอ่ยชวนอย่างไม่มีเลศนัยเท่าไหร่..
เพราะว่ายังไงเขากับเธอคนนี้ก็มีชะตาจิ๋มและควยต้องตรงกันเกือบจะทุกวันอยู่แล้วในช่วงฝึกงาน
ดังนั้นจึงไม่จำเป็นเลยที่เขาจะต้องหลอกล่อเธอไปที่ห้องเพื่อหาทางฟันเธอที่นั้น...
“ว้าว...ใจดีจังเลย..ขอบคุณมากเลยนะคะ...” ปอน
ประกบมือเข้าหากันด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม...
จากนั้นทั้งคู่ก็เงียบไปจนลิฟต์ลงมาถึงชั้นที่สอง
“ปอน ไปกับเราก็ได้นะ..เราเอารถมา...”
วุดเอ่ยชวนและก้าวเท้าออกจากลิฟต์ “เอ๊ะ..หรือว่าแฟน ปอน จะมารับ”
“เปล่าจ๊ะ..ไปด้วยๆ..แหะๆ..” ปอน รีบก้าวตามออกมาและเดินตาม วุด ออกไปที่ลานจอดรถทันที.. แหม
พ่อคนนี้รุ่นราวคราวเดียวกันแต่ดันมีรถขับเสียด้วย.. ดีจริงๆเลยน้า..
ห้องพักของวุดนั้นอยู่ไม่ไกลจากที่ฝึกงานเท่าไหร่ประมาณ 15
นาทีก็ถึงแล้ว..
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น