เพื่อนกันมันส์ใช่ป่ะ? ตอนเพื่อนร่วมงาน1
กินกันเองในที่ทำงาน เรื่องแบบนี้มีบ่อยจะตาย จริงมะ...
ทำไมจะไม่ได้ล่ะ มันก็แค่ คำเสนอสนองต้องตรงกันและออกมาเป็นการกระทำก็เท่านั้นเอง...
ก็เหมือนกับเรื่องที่เกิดกับเรานี้แหละ..
ทำไมจะไม่ได้ล่ะ มันก็แค่ คำเสนอสนองต้องตรงกันและออกมาเป็นการกระทำก็เท่านั้นเอง...
ก็เหมือนกับเรื่องที่เกิดกับเรานี้แหละ..
เราชื่อว่า ภา ปีนี้ย่าง 20 แล้ว เป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยชื่อไม่ดังเท่าไหร่และเนื่องจากบ้านเราฐานะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เราจึงต้องหางานพิเศษทำไปด้วยระหว่างเรียน อันที่จริงเราก็ทำงานพิเศษมาตั้งแต่อยู่ ม ปลาย แล้วล่ะ ขึ้น มหาวิทยาลัยมาก็เลยหางานได้ไม่ยาก(คนมีประสบการณ์ก็งี้แหละนะ ได้เปรียบในหลายๆสนาม)
งานที่เราทำเป็นงานในโรงหนังอ่ะ อยู่ในห้างหนังด้วย แต่ขอไม่บอกนะว่าที่ไหน เพราะเรื่องที่เราจะเล่าต่อไปนี้ อาจทำให้บริษัทเขาเสียชื่อเสียงได้ เรายังไม่อยากถูกฟ้องน่ะ เอาล่ะ มาเริ่มกันเลยดีกว่า...
หน้าที่ของเราก็คือตรวจสอบความเรียบร้อยของโรงหนังและก็พาลูกค้าเข้าโรงประมาณ ที่จริงแล้วเราแทบจะไม่ได้ทำอะไรเลยในแต่ละวัน เพราะว่าลูกค้าที่มาดูหนังส่วนมากเขาก็มาเป็นกลุ่มหรือไม่ก็มากันเป็นคู่อยู่แล้ว ไอ้ครั้นจะเดินไปนำทางเขาก็เกรงว่าจะเกะกะแล้วกลายเป็น กขค ไปซะเปล่า เราก็เลยทำได้แค่ยืนไหว้และฉีกตั๋วอยู่หน้าประตูเท่านั้นเอง
พูดถึงมาเป็นคู่ยังไม่ได้บอกเลยสินะ ว่าเราก็มีแฟนแล้วเหมือนกัน ชื่อว่า พี่เต้ อายุมากกว่าเรา 2 ปี แกเรียนจบแล้วก็ทำงานไปแล้วล่ะ แต่แม่งไม่เคยส่งเงินมาช่วยเราบ้างเลย กลับกันบ้างเดือนแม่งก็ขอยืมเราอีกแน่ะ ที่หนักกว่านั้นก็คือ ในช่วงสองสามเดือนนี้เรากับพี่เต้ไม่ค่อยได้เจอกันเลย พี่เขาติดงานเราก็ติดงานเวลาไม่ตรงกันแถมพี่เต้ก็ทำงานอยู่ต่างจังหวัดด้วย ความสัมพันธ์ของเราก็เลยดูเหมือนว่าจะห่างเหินและเปราะบางขึ้นกว่าเดิม...
“สวัสดีค่ะ เชิญค่ะ..” เราไหว้ รับตั๋วมาฉีก และผายมือเชิญคู่รักคู่มือให้เดินเข้าไปในโรงหนัง – “สวัสดีค่ะ เชิญค่ะ” เราทำเหมือนเดิมเลย ไหว้ รับตั๋วมาฉีก ผายมือเชิญ .. ต้องทำไปเรื่อยๆจนกว่าหนังจะฉายนั้นแหละ หลังจากนั้นก็ต้องไปยืนรอที่โรงต่อไป ช่างเป็นงานที่น่าเบื่อเหลือเกิน แต่ถ้าได้เงินมันก็โอเคแหละนะ...
สามทุ่มครึ่ง ... หนังเรื่องสุดท้ายเริ่มฉายพอดี... หน้าที่ต่อไปของเราก็คือลงไปทำความสะอาดใต้โรงหนังซึ่งเต็มไปด้วยแก้วใช้แล้วที่จะนำไปรีไซเคิลต่อไป
ใต้โรงนั้นมืดสนิท...น่ากลัวเหมือนในหนังผี โชคดีที่ยังมีเสียงหนังดังมาจากด้านบนให้พอรู้บ้างว่าไม่ได้อยู่คนเดียว แต่ถ้าวันไหนเปิดหนังผีล่ะก็นะ บรื้อ...ไม่อยากจะคิดเลย ไม่รู้นะว่าจะรู้สึกอย่างไร แต่เราว่ามันคงจะสยองพิลึกว่ะ...
ดังนั้นเราจึงต้องมีเพื่อนอยู่ด้วยคนหนึ่งเสมอในระหว่างที่กำลังทำความสะอาด ปกติจะชวน พี่เก๋ ไม่ก็พี่แนน มา แต่วันนี้พี่ทั้งสองคนเขาเลิกงานตอนเย็น ก็เลยต้องจำใจมาทำคนเดียว จะให้ชวนไอ้บอยกับไปป์เพื่อนร่วมงานชายสองคนลงมาด้วยก็เกรงว่าจะไม่เหมาะสมเท่าไหร่..
“1..2..3 โอเค...รวดเดียวจบ” เราเปิดประตูทางเข้าใต้โรงหนังช้าๆ คลำมือหาปุ่มเปิดไฟในความมืด เมื่อเจอแล้วก็กดเบาๆ แชะ.. เรียบร้อยไฟติดแล้ว สว่างโร่เลย ...แต่ก็ยังน่ากลัวอยู่ดี... เรากลั้นหายใจเดินเข้าไปปิดประตู ยกมือไหว้... สาธุ...ถ้ามีผีก็อย่ามาหลอกหนูเลยนะคะ หนูกลัวมาก แล้วก็เคารพมากด้วย... จากนั้นก็หยิบไม้กวาดมาปัดๆถูๆ พลางนึกถึงเรื่องดีๆไว้ นึกถึงเรื่องตลก นึกถึงคุณพระคุณเจ้าเข้าไว้.. แต่ใจเจ้ากรรมมันก็ดันไปนึกวกเข้าเรื่องผีอยู่ตลอดเวลาจนได้(เชื่อว่าหลายๆคนก็เคยเป็น)
เล่นเอาสั่นเลย เราดันไปนึกภาพผีคลานออกมาจากความมืดกับผีห้อยหัวลงมาซะได้.. ตัวสั่นหงกไม่เป็นอันกวาด ต้องก้มหน้ามองพื้น ขาก็ก้าวไม่ค่อยออก โอ๊ย อนาถมาก โตเป็นควายแล้วดันมากลัวผีซะได้...
แต่แล้ว...ก็มี....มือของใคร...ก็ไม่รู้....มาจับที่ไหล่ของเรา....
“แฮ่!!!!... ว่าไงจ๊ะ ภา!!!..”
“อีเหี้ย!!!!!!!!!!...”
เราอุทาน(สบถ)ออกมาดังมาก!!..พร้อมทั้งเหวี่ยงด้ามไม้กวาดในมือฟาดไปที่ด้านหลัง โดนเข้าแล้วไง ฮื่อ...หนูไม่ได้ลบหลู่อะไรเลยนะคะ... หนูมาทำความสะอาดให้ท่านนะคะ... หนูมาดีนะคะ... อย่าหลอกหนูเลย... หนูกลัวแล้วววว... เดี๋ยวหนูทำบุญไปให้ค่า...จะให้ไปปฏิบัติธรรมก็ได้นะคะ...แต่อย่าทำอะไรหนูเลย...ถึงหนูจะเคยชิงสุกก่อนห่ามแล้วก็เคยกินเหล้าเมายาดองก็เถอะ แต่ต่อไปนี้หนูจะเป็นเด็กดีแล้วค่า...
“โอ๊ยยย...โอ๊ย...ตีกูทำไมเนี้ย!?...อีภา...ตากูปิดเลย..”
อ้าว..ทำไมผีเสียงคุ้นๆจัง แถมรู้จักชื่อเราอีกด้วย แล้วผีเขาเจ็บกันเป็นด้วยเหรอเนี้ย..
แค่อึดใจเดียว...กลั้นใจหน่อย...แค่อึดใจเดียว...หันกลับไปดูหน่อยนะ....
เรากลั้นใจและหันกลับไปข้างหลังอย่างรวดเร็ว...
“เอ้า...อีบอย…มึงมาอยู่ที่นี้ได้ไงเนี้ย กูนึกว่าทำงานอยู่ข้างบนเสียอีก” เฉลยเสียแล้วว่าผู้ที่มาเล่นแผลงๆแบบสิ้นคิดก็คือ ไอ้บอย เพื่อนร่วมงานวัยเดียวกันของเรานั้นเอง อีห่าเอ๊ย เล่นไม่รู้เรื่อง
“อูยย..กูแอบมาหลับแปปเดียวเอง...มึงอ่ะ..หน้าหล่อๆพังหมดเลย...ยัง..ยังไม่ขอโทษอีกอีนี้”
“ขอโทษเหี้ยไรล่ะ...อีห่ากูไม่ตบซ้ำก็บุญละ..เล่นห่าไรไม่รู้เรื่อง..เดี๋ยวเถอะมึง..จะโดนดี...” เราดุบอยแบบจริงจัง ก็แหม มาเล่นหลอกผีกลางค่ำกลางคืนแบบนี้นะ ระวังเจ้าที่เจ้าทางเขาจะไม่พอใจเอาหรอก
“มึงอ่ะเพ้อเจ้อ...ผีไม่มีในโลกหรอก...”
“ระวังปากไว้..เดี๋ยวจะโดนดีอีบอย..ไปเลย..ไปทำงานเลยมึง ไม่งั้นกูจะฟ้องพี่นิ้ง(ผู้จัดการ)”
“เออๆ..อูย...มึงอ่ะ...ลืมตาไม่ขึ้นเลย” “สมน้ำหน้า..”
แล้วไอ้บอยมันก็เดินกุมเบ้าตาออกจากโรงไปทิ้งให้เราอยู่ในความมืดคนเดียวอีกครั้ง...เอิ่ม...คิดไปคิดมาแล้วไม่น่ารีบไล่มันออกไปเลย อย่างน้อยก็น่าจะชวนมันอยู่ด้วยกันก่อน...เหอะๆ..เอาอีกแล้วสิเรา เริ่มจะกลัวอีกแล้วสิ..
พอกันที ไม่ทำแม่งแล้ว... หัวใจของเราก็ยังเต้นแรงอยู่ด้วย ขืนเจอเรื่องตื่นเต้นไปมากกว่านี้รับรองหัวใจวายได้แน่
เราโยนไม้กวาดไว้ที่พื้นวิ่งออกใต้โรงหนัง เกาะประตูด้านนอกไว้พร้อมทั้งเอื้อมมือเขามาปิดไฟแล้วรีบปิดประตูทันที อย่างรวดเร็ว... ฟู่วว.. โดนดุเรื่องไม่เก็บไม้กวาดก็ช่าง.. ดีกว่าหัวใจวายตายล่ะนะ..
“ทำอะไรอยู่เหรอภา!?...” น้ำเสียงนิ่งๆเรียบๆเอ่ยถามขึ้นมา จากความเงียบ...
“ว้ายยย....” อีกแล้ว....ตกใจอีกแล้ว...ถึงจะรู้ว่าเป็นเสียงคนแต่ก็ตกใจอยู่ดี..และด้วยความตกใจฉันจึงเผลอเหวี่ยงมือไปข้างหลังโดยอัตโนมัติ
เพี๊ยะ!! ฝ่ามือจ๊ะ... ลอยไปเต็มๆเลย เข้าโหนกแก้มมันๆของใครก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าหน้าสะบัด..
“โอ๊ย ภา..!!.. ตบเราทำไมเนี้ย...”
“อะ..อ้าว..ไปป์... เราขอโทษๆ..เราตกใจอ่ะ..ไปป์ๆ.. ตายแล้วเจ็บหรือเปล่า” นั่นไงล่ะ ภา เอ๊ย ดันไปตบหน้า ไปป์ เพื่อนร่วมงานอีกคนจนได้.. ไปป์เป็นคนเงียบๆขรึมๆสุภาพเรียบร้อยทำงานเก่งแม้จะอายุน้อยกว่าเราหนึ่งปี แต่จากเริ่มแรกนั้นเราเรียกแทนกันด้วยชื่อจึงเรียกแบบนั้นตลอดมา
“มะ..ไม่เป็นไรๆ...ฮะๆ..ตบแรงแบบนี้...ใครได้เป็นแฟนลำบากแย่เลย..”
แหมๆจะพูดถึงแฟนทำไมล่ะจ๊ะ..อีนั้นมันตายไปแล้วมั้ง
“เหอะๆ...ไปป์ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว เราขอโทษจริงๆนะ..”
“อะ..แฮ่ม..ทำอะไรกันอยู่จ๊ะ...” มีคู่สนทนาคนที่สามแทรกเข้ามา.... อีบอย ที่มีผ้าพันแผลปิดตาขวาอยู่นั้นเอง ทำแผลเร็วชะมัดเลยอีนี้.. “อะไรของมึงอีบอย...อ้าว..ผ้าปิดตาสวยดีนี้..ซื้อที่ไหนเนี้ยเผื่อกูจะซื้อให้ผัวบ้าง..” เราถามกลับแบบกวนตีน
“อ้าว พี่บอย ตาไปทำอะไรมาเหรอครับ” ไปป์ ถามอย่างสุภาพพร้อมทั้งลูบแก้มข้างที่โดนเราตบไปพลาง..
“อีภาดิ..แม่งเอาไม้กวาดหวดหน้ากู...ลืมตาไม่ขึ้นเลยเนี้ย... แต่ช่างเถอะๆ..ทำงานก่อนๆ.. พี่นิ้งให้กูมาตรวจใต้โรง... จัดการให้ไว้เลยอีภา จะได้กลับบ้านซะที..”
โอ้ว..นับเป็นสัญญาณที่ดี. สำหรับการตรวจใต้โรงนั้นปกติเขาจะทำกันตอนเช้า แต่ดูเหมือนว่าวันนี้จะเป็นกรณีพิเศษ และถ้าคนตรวจโรงเป็นไอ้บอยล่ะก็ ต่อให้เก็บกวาดไม่เรียบร้อยก็ยังคงพอจะต่อรองกันได้ เพราะเวลาเราตรวจโรงที่ไอ้บอยทำแม่งก็ไม่เคยทำเรียบร้อยเช่นกัน..
“เออๆ...มาเลยๆ... ไปป์งั้นเราทำงานก่อนนะ..”
“อะ..เค...เราก็..ไปทำงานก่อน...”
ไปป์เดินกลับเข้าไปโรงหนังเพื่อดูแลลูกค้าส่วนเรากับบอยก็เดินเข้าไปในใต้โรงกัน รู้สึกอุ่นใจขึ้นมาเยอะเลยแหะเวลามีคนอยู่ด้วย ถึงมันจะปากมากและกวนตีนเราตลอดก็เถอะ..
“เก็บโรงแบบนี้..ไล่ออกซะดีมั้ง..” มันแขวะเมื่อเห็นไม้กวาดที่วางทาบอยู่บนพื้น
“แหมๆ..มึงเรียบร้อยตายล่ะ..รีบๆเซ็นให้ผ่านไปได้แล้ว..”
“เออๆ..เดี๋ยวเดินตรวจเป็นพิธีก่อน ...”
บอยมันแสร้งทำเป็นเดินตรวจไปรอบๆใต้โรง แกล้งทำนู้นทำนี้หล่นให้เราเดินไปเก็บขึ้นมาเองบ้าง แหม อีนี้นี้ แต่แค่นี้สบายมาก พอมีคนเข้ามาอยู่ใต้โรงกับเราแล้ว เราสามารถเดินไปเดินมาได้แบบไม่กลัวอะไรเลย
“อุ๊ย...ซองใส่แก้วตก..คุณเยาวภา มาเก็บให้หน่อยสิครับ..” อีบอยมันปัดซองใส่แก้วน้ำที่จะเอาไปขายให้ลูกค้าตกพื้น..หน็อย..อีนี้นี้...อย่าให้ถึงตาเราบ้างนะ – เราเดินไปเก็บแก้วมาตั้งเหมือนเดิม..
“อีดอกอย่าเล่นมากสิมึงเดี๋ยวก็ไม่ได้กลับบ้าน..ว้าย...” จังหวะที่เราวางแก้วกลับคืนที่เดิมนั้นขาดันไปสะดุ้งกับกล่องใส่ขนม...แล้วก็ล้มไปทับบอย ซะงั้น...แหมฉากนี้ยังกับในหนังละครน้ำเน่าเลย...
ปากเรากับปาก บอย ใกล้จนเกินจะประกบกันเลย หน้าอกของเราซึ่งก็ใหญ่พอสมควร ทาบลงไปกับหน้าอกแข็งๆของบอยแบบเนื้อแนบเนื้อ... ขนาดเราเอามือยันพื้นไว้แล้วนะ... หน้าเราร้อนฉ่าขึ้นมาเลย... พอมองใกล้ๆแล้วไอ้บอยมันก็หล่อเหมือนกันนี้หว่า..
“เอ่อ...” บอยหลุดพูดออกมาเบาๆ ในขณะที่มือของมันกำลังโอบเอวเราไว้อยู่...โคตรจะเขินเลย...เราแพ้ท่านี้มากเลย แพ้เวลาโดนผู้ชายโอบเอวแบบนี้.. แถมบอยก็ไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยด้วยนะ...ตายแล้วๆ...เขินชะมัดเลย...อ๊ายย ><…
“บอย...” เราหลับตาลง จิตใจ ณ เวลานั้นบวกกับสถานการณ์ช่างเป็นใจเหลือเกิน... เอาวะ...กับเพื่อนร่วมงาน ไม่เสียหายหรอก..นิดเดียวเอง...ครั้งเดียวเอง..แก้เหงา เราก็ไม่ได้อะไรกับ พี่เต้ มานานแล้ว...ของขาดมันต้องเสพซะหน่อยเพื่อความสำราญของชีวิต...
บอยไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ มันดันปากขึ้นมาจูบกับเราแบบรู้งาน แต่ยังไม่ได้แลกลิ้นกันนะ แค่ประกอบริมฝีปากแล้วดูดกันเบาๆเฉยๆ แค่นี้เราก็เคลิ้มจะแย่แล้วล่ะ .. บอยวางกระดาษตรวจงานไว้ข้างๆ จากนั้นก็พลิกตัวขึ้นมานอนคร่อมเรา
“ครั้งแรกเลยนะเนี้ย...ใต้โรงหนังด้วย”
“อย่าพูดมาก...เร็ว...เถอะ..”
เราเองก็ไม่รู้ตัวเหมือนกันว่าเผลอตัวเผลอใจเกิดอารมณ์กับเพื่อนคนนี้มากขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ เพราะว่าตอนนี้เรารู้สึกได้เลยว่า เป้ากางเกงใน ของเรานั้นเปียกแฉะไปด้วยน้ำอารมณ์เรียบร้อยแล้ว ...
เราถอดรองเท้า ปลดตะขอกางเกงออกและถกออกอย่างรวดเร็ว เผยให้เห็นกางเกงในสีดำ..แฉะๆ..
“แหมๆ..”
“มึงไม่ต้องพูดมาก..ให้ไว..”
“จ้าๆ..”
ว่าแล้วบอยก็ถอดกางเกงตามและควักเอาดุ้นออกมาโชว์อย่างรวดเร็วเช่นกัน... หืมม.. ใหญ่เหมือนกันนะเราเนี้ย
“อมควยให้ก่อนดิ..”
“อี๊...สกปรก..ไม่เอาอ่ะมึง..เยี่ยวมาล้างหรือเปล่าไมรู้...อื้มม..อวบบบ..อวบบบ...”
มันจะถามทำซากอะไรก็ไม่รู้เพราะสุดท้ายมันก็เอา จู๋ ของมันมายัดปากให้เราอยู่ดี
แหวะ!!.. รสฝาดๆแบบนี้ แม่งกลิ่นเยี่ยวแน่เลย จะบ้าตาย..นี้เรากำลังอมควยให้เพื่อนร่วมงานในที่ทำงานหรือเนี้ย ถ้าผู้จัดการจับได้จะเกินอะไรขึ้นเนี้ย ... ช่างมันเถอะ ไม่สนใจแล้ว ดูดไปดูดมาเลียไปเลียมารสชาติเริ่มชินปากแหละ
“อูย...ใช้ได้...ดูดควยผัวบ่อยสิมึง...” อ้าวอีนี้ ถามแบบนี้ นั้นปากหรือจ๊ะ
“อ่อยเอี้ยไอ...อูไอเออแองอาอายเอือนอ่ะ..” เราตอบกลับไป จะถามถึงแฟนเราทำไมวะไอ้นี้เดี๋ยวหมดรมณ์หรอก
“ฟังไม่รู้ว่ะ...ช่างเหอะ..ดูดต่อไปเถอะ...” บอยมันหัวเราะเบาๆ ทำเอาเราหงุดหงิดเหมือนกันนะเนี้ย
“อีสัตว์..กูบอกว่า กูไม่ได้เจอแฟนมา อุ๊บบบ...อีออก...” เราบ้วนควยมันออกจากปากแล้วเงยหน้าขึ้นมาตอบ
“ไม่ต้องพูดมาก.ดูดควยกูไปเถอะ...” บอยกดหัวเราลงไปให้ควยมุดเข้าไปในปากเหมือนเดิม ...
เราก็เลยจัดการอมควยให้มันต่อไป จนเริ่มแข็งกว่าเดิม บอยจึงชักออกมาและบอกให้เรานอนลงไป.. จากนั้นมันก็ตามขึ้นมาถอดกางเกงในเราออกแล้วเอาหัวควยถูที่เนินโคกของเราเบาๆเป็นการทักทาย .. นี้เป็นครั้งแรกเลยนะเนี้ยที่มาถูกคนที่ไม่ใช่แฟนเล่นหอยแบบนี้ .. เราเคยผ่านผู้ชายมาแล้วสองคนชื่อ แจ๊ค แฟนคนแรกที่เปิดซิงเราแล้วก็แยกทางกันไปเพราะไปเรียนคนละจังหวัด(ความจริงเราแอบมี พี่เต้ เองแหละเลยต้องเลิกกับแจ๊ค) คนที่สองก็คือพี่เต้ ที่เย็ดกันสนั่นหวั่นไหวตั้งแต่เริ่มคบกัน..
ณ สถานการณ์ปัจจุบันถามว่า อายไหม บอกเลยว่า เฉยๆมาก.. ความเงี่ยนมันครอบงำเรียบร้อยละ ...
“ใส่ล่ะนะ..”
“อืม..”
พูดจบ บอย ก็ค่อยๆยัดหัวดุ้นบานๆเหมือนหัวเห็ดของมันมุดเข้ามาในร่องเสียวเปียกชุ่มของเรา .. มันเข้ามาได้อย่างง่ายดายเหมือนกับเสียบปลั๊กสามตา ... แท่งเสียวบานๆใหญ่ๆของ บอย ถูกดันเข้ามาจนคับแน่นรูของเราไปหมด .. แอบมีอาการเจ็บนิดๆเนื่องจากเราไม่ได้มีเซ็กส์กับผู้ชายมาหลายเดือนแล้ว ของมันก็ต้องมีแคบลงกันบ้างละนะ
“อึ้ก..มึง..เบาๆก่อนนะ...”
“อ้าวเจ็บเหรอ...มึงยังซิงป่ะเนี้ย”
“ซิงเหี้ยไรละ...อูยย..อีบอย..เบาก่อน...ค่อยๆ..ซอยดิมึง...”
บอย ขยับเอวช้าๆ ดุ้นของเขาเข้าออกถ้ำของเราเหมือนงูเลื้อยเขาเลื้อยออก แสงไฟในห้องใต้โรงทำให้เราพอจะเห็นเขาได้บ้าง เราก้มหัวลงไปดู ควยของ บอย ที่กำลังมุดเข้ามุดออกหีของเราอยู่ เห็นแล้วมันเสียวกว่าเดิมอีกนะเนี้ย
“อ่า...มึง....ซี้ดดด...อืมม...บอย...เอาเลย...” เมื่อเริ่มอยู่ตัวแล้วความมันส์ก็บังเกิด ... รู้สึกได้เลยว่าน้ำของเรามันออกมาเยอะกว่าเดิม
บอย ซึ่งน่าจะมีประสบการณ์ในการฟันสาวๆมาพอสมควรเมื่อเห็นจังหวะดีก็ไม่รอช้า จัดการจัดท่าทางให้ตน แทง ได้ถนัดขึ้นทันที – เขาหยิบลังกระดาษพับที่ไม่ใช้แล้วมาวางไว้ที่พื้น ... จับเรานั่งเป็นท่าหมาเอาเข่ารอง จากนั้นก็จัดการกระแทกเราจากด้านหลัง... ท่านี้นี้มันเสียวสุดๆเลยนะเนี้ย...
“อ๊ะ..อ๊ะ..บอยยย..ซี้ดดด..อ๊างงงง...อ๊า...อ๊ะ....มึงง...เสียวว่ะ...ซี้ดดดด...”
บอย ไม่พูดจาไม่ตั้งหน้าตั้งตาเย็ดลูกเดียว .. มันจับเอวเราไว้แน่นกึ่งกดกึ่งดึงเข้าหาตนจากนั้นก็กระแทกซอยอย่างรุนแรง ... เสียงเนื้อกระทบกัน ตับ ตับ น่าจะดังมาก โชคดีโรงหนังข้างบนนั้นกำลังฉายหนังแอคชั่นอยู่และตอนนี้น่าจะเป็นฉากบู๊อยู่เพราะว่าเสียงระเบิดเสียงยิงกันนั้นมันดังเหลือเกิน .. ข้างบนก็บู๊กันอย่างดุเดือด ส่วนข้างล่างเราสองคนก็บู๊กันทั้งเสียวทั้งตื่นเต้นและดุเดือดไม่แพ้กัน ...
“อื้มมมม....อื้ออ...อื้มมมม....อ๊างงง....อ๊า...อ๊ายยย....”
“อีภา..จะแตกแล้ว...ซี้ดดด...ใส่ตรงไหนดี....อ๊า...หีมึงแน่นมาก..”
เราเหลียวหลังกลับไปมองบอย “อย่าแตกในก็พอ....อ๊างงงง...แรงอีกดิมึง....ซี้ดดดด...เสียวเหี้ยๆ...อ๊างงง...”
“เออ....อูยยยย...แบบนี้..ชอบไหม..หืมมม.ชอบไหมมม...”
บอย ยกตัวขึ้นสูงและกดเอวของเราลงไป จนทั้งร่างของเราแนบลงไปกับพื้น จากนั้นบอยก็จัดการกระแทกควยปักลำลงมาอย่างรุนแรง... เล่นเอาขาสั่นเลยทีเดียว.. “อ๊า..มึงง..โคตรเสียวเลย...แรงอีก...แรงอีกสิ...อ๊างงงงง....”
“อ๊า...ภา..ไม่ไหวแล้ว...”
บอยรวบรวมพลังลมปราณเฮือกสุดท้ายซอยเอวเข้ามาอย่างรวดเร็วและรุนแรงสุดแรงเกิด พอดุ้นเริ่มบานพร้อมจะระเบิดแมกม่าสีขาวแล้วก็รีบดึงออกมาและปล่อยมันลงบนแก้มก้นของเราทันที ... อุ่นชะมัดเลย.. อุ่นจนออกแนวร้อนเลยนะเนี้ย น้ำว่าวของบอยเนี้ย.. ที่จริงแล้วนี้เป็นครั้งแรกเลยนะ ที่เราถูกผู้ชายราดน้ำกามลงบนแก้มก้น ปกติเวลาเรามีอะไรกับแฟน(หมายถึงพี่เต้ เพราะ กับแจ๊คเย็ดกันครั้งเดียวแล้วก็ใส่ถุงด้วยตอนนั้น)จะจบด้วยการเราโม๊คให้จนเสร็จ(ไม่กล้าเสี่ยงให้แทงจนใกล้แตกแล้วชักออกมาปล่อยนอก เพราะ กลัวท้อง)
น้ำข้นๆราดลงบนแก้มก้นแบบนี้ก็ไม่เลวเหมือนกันแหะ ...
เรานอนหมอบไปกับพื้นหอบแฮ่กๆ ทั้งเหนื่อยทั้งเพลีย... ตอนทำมันไม่เท่าไหร่หรอกมันกำลังมีความสุขกับการกระทำเสียวๆอยู่ แต่พอได้สติเท่านั้นแหละ ขาแทบขยับไม่ได้เลย...
“ใต้โรงเสร็จหรือยังบอย...ใต้โรงเสร็จหรือยัง..เปลี่ยน..” เสียง วอ ของ บอย ดังขึ้นปลายสายน่าจะเป็น พี่นิ้ง ผู้จัดการ
บอยรีบแต่งตัวและตอบ วอ กลับไป “เรียบร้อยแล้วครับ เปลี่ยน”
“ค่ะ..เดี๋ยวพี่เข้าไปตรวจนะคะ..เปลี่ยน..”
ชิบหายแล้วไง ทำไมต้องมาตรวจวันนี้ด้วยเนี้ย ปกติแล้ว พี่นิ้ง จะไม่ค่อยเดินลงมาตรวจใต้โรงเองนะ นานๆครั้งถึงจะมาแหละ... เรารีบหยิบกางเกงในที่กองอยู่กับพื้นมาใส่อย่างรวดเร็วตามด้วยกางเกงแสลกใส่ทำงาน..
“อีบอยๆ.. มึงให้พี่นิ้งมาทำไม.. อีดอกกูยังแต่งตัวไม่เสร็จเลย..อีเหี้ย..โรงก็ยังไม่เรียบร้อย..” เราบ่นไปแต่งตัวไป พลางเอามือตีมันเบาๆ อีนี้ก็กระโดดหลบพร้อมทั้งหัวเราะคิกคักแล้วก็เอาลังกระดาษที่ใช้รองกิจกามเมื่อคู่โยนแอบไปในความมืด ก่อนที่พี่นิ้งจะเปิดประตูเข้ามา...
พี่นิ้งเป็นสาวใหญ่วัย 36 ปี มีลูกสาวหนึ่งคนอายุประมาณ 15-16 มั้ง คือ โดนจับแต่งงานตั้งแต่ยังสาวๆ ส่วนผัวแกน่ะ ตายไปเรียบร้อยแล้ว ความจริงก็ไม่ได้ไปเสือกอะไรกับแกมากหรอกนะ แกเผลอเล่าให้ฟังตอนเมาเองน่ะ...
“โห...บอย..ไหนบอกเรียบร้อยไง... ภา เก็บโรงยังไงเนี้ย ลังกระดาษไม่เรียบร้อยเลย..แล้วทำไมผมยุ่งนักละ..ทำงานบริการต้องเรียบร้อยสิออกมานี้เลย..ไปที่ออฟฟิศพี่เลย ต้องโดนใบตักเตือนคนละใบแล้วพวกเราน่ะ..”
เข้ามาบ่นเสร็จพี่นิ้งก็เดินออกไป ... เราหันไปมองค้อนไอ้บอยซึ่งยังไม่ยอมหุบยิ้มสำนึกผิดอีก.. ถ้าโดนใบตักเตือน 5 ใบ นี้หมายถึงพักงานเลยนะเว้ย นี้ก็พึ่งโดนคดีแอบเอาโทรศัพท์เข้ามาเล่นตอนทำงานไปเองนะ..
เราเดินตามพี่นิ้งกลับไปที่ออฟฟิศ..ระหว่างเดินก็พึ่งระลึกได้ว่าลืมบางอย่างไป !!!
หลังจากที่ไอ้บอยเย็ดเสร็จแล้วมันปล่อยน้ำว่าวลงบนก้นของเรานี้หว่า...นี้เราก็ยังไม่ได้เช็ดด้วย... ว่าแล้วทำไมมันเหนอะๆข้างใน...อื้มหื้มม..เหนียวข้นแฉะไปหมดเลย...เริ่มคันแล้วด้วย...ยี้....อีบอยยย....
ว่าแล้ว อีบอย แม่งหัวเราะอะไรนัก.. อีเลวววว
ที่ซวยกว่านั้นก็คือ...พี่นิ้ง นี้แหละ... เรียกเราไปว่ากล่าวตักเตือนนานมากกก....เหมือนกับว่ากำลังแกล้งกันอย่างนั้นแหละ... ทั้งคันทั้งเหนียวหยะแหยงสุดๆไปเลย...เฮ้อออ... วันนี้นี้มันซวยจริงๆเลยแหะ..
แต่เอาเถอะ..มองโลกในแง่ดีอย่างน้อยก็ยังได้ลองเสียวแบบใหม่ๆกับเพื่อนร่วมงานนะ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น