ถามว่าอารมณ์เสียไหม ... ก็นิดหนึ่ง ... แต่ไม่ถึงขั้นจะไปโมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยงกับแกหรอก แค่เซ็งๆเล็กน้อย ... แต่เอาน่ะ คิดแง่บวกไว้ก่อน ป้าปิ่น แกอาจจะมีธุระเร่งด่วนก็ได้ ... หรือบางทีแกอาจจะตื่นแต่เช้าเพื่อไปขายน้ำเป็นอาชีพเสริมก็ได้ .. ก็นะคนเราต้นทุนชีวิตไม่เท่ากัน ไม่ใช่ว่าทุกคนจะได้นอนเต็มอิ่มแล้วมีกินมีใช้ทุกวันได้เหมือนเรานี้ .. ต้องเข้าใจเขาบ้าง
เมื่อคิดได้ดังนั้นผมก็ขับรถออกไป หาข้าวเช้ากินและเข้าออฟฟิศไป ... ป้าอยู่ที่นั้นแล้ว..แกกำลังพยายามสตาร์ทรถอยู่ ..พอเห็นผมปุ๊บ แกก็รีบวิ่งมาขอโทษและพยายามจะเดินหนีเลย
“ไม่เป็นไรหรอกครับ..ฮะๆ..” ผมยิ้มกลบเกลื่อนความผิดหวัง “แล้วทานข้าวหรือยังครับ”
“แล้วค่ะ...คือว่าขอโทษจริงๆนะคะ คุณนิน พอดี ดิฉัน..ไม่อยากรบกวนจริงๆน่ะค่ะ.. แต่เมื่อวาน...”
“ไม่เป็นไรครับ..ไม่เป็นไรจริงๆ.. ตามสบายดีกว่าครับ..”
ผมยิ้มและเดินขึ้นตึกมาก่อน อย่างน้อยเธอก็ยังคุยกับผมล่ะนะ .. บางทีผมอาจจะไม่ใช่สเปคของเธอก็ได้ เพียงแต่เธอเกรงใจผมในฐานะที่เป็นหัวหน้าของเธอ ...
ถ้านับเฉพาะพนักงานนั่งโต๊ะแล้ว ผมมาถึงที่บริษัทคนแรก ... เอาล่ะ มีงานที่ยังต้องจัดการอยู่ ... ผมตรงไปที่ห้องทำงานส่วนตัว ประตูไม่ได้ล็อคแสดงว่า ป้าปิ่น มาเปิดให้เรียบร้อยแล้ว และ...อ่า.. นั่นแก้วน้ำ.. โอวัลตินที่ผมสั่งไปเมื่อวานนี้นา .. ยอดไปเลยแหะ นึกว่าจะไม่ได้ลิ้มลองฝีมือของ ป้าปิ่น เสียแล้ว
หวังลึกว่ามันจะไม่ห่วยแตกเหมือนชาเย็นวันก่อนของแกนะ .. แต่ถึงมันจะห่วยแค่ไหนแต่ผมก็จะกินให้หมดให้ดูเลย ..
อืม...ห่วยเหมือนเดิมเลย...หวานเจี๊ยบยังกับน้ำหวานใส่กลิ่นโอวัลตินเลย ให้ตายเถอะ แบบนี้ขืนกินไปหมดแก้วรับรองว่าเบาหวานได้มาเซย์ไฮแน่ .. แต่จะให้ทิ้งก็เสียดาย ผมจึงจัดการเอาน้ำเปล่ามาผสมเพื่อให้มันเจือจางลง ซึ่งก็พอจะช่วยได้บ้างล่ะนะ ... เอาล่ะๆ ได้เวลาทำงานแล้ว
พอเริ่มงานสมาธิผมก็มาทันที ลืมเรื่องรักๆใคร่ๆไว้ก่อน ยังไงซะหน้าที่การงานก็ต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง .. ผมเองก็ไม่รู้ตัวเหมือนกันว่าก้มหน้าลงไปทำงานนานเท่าไหร่แล้ว .. แต่พอเงยหน้ามาอีกที.. พนักงานก็มาทำงานกับเต็มบริษัทแล้ว
บุญเข้ามาทักทายผมและให้การช่วยเหลือเช่นเคย .. ผมพยายามมองหา ป้าปิ่น แล้วแต่ไม่ยักจะเห็นแกผ่านมาเลยแหะ สงสัยต้องใช้อำนาจหน่อยล่ะ
ผมให้บุญไปตามป้าปิ่นมาบอกว่าผมมีเรื่องจะคุยด้วย ... แกก็เกร็งๆเหมือนเดิมแหละ ไม่รู้จะตื่นเต้นอะไรนักหนา คนเหมือนกันแท้ๆ ... เมื่อป้าปิ่นเข้ามาในห้องแล้วผมก็ให้บุญออกไปทำงานที่อื่นก่อน จากนั้นก็ปิดบานพับลงเพื่อให้เราได้มีบรรยากาศกันสองคนในห้องทำงานของผม
“นี้ครับ..พี่ปิ่น..” ผมยืนแบงค์ร้อยให้พี่แก พร้อมทั้งโปรยรอยยิ้มเป็นของแถม
“เอ่อ..คือ...ดิฉันไม่มีเงินทอนหรอกค่ะ...เวลาทำงานเขา..ไม่ให้..”
“ไม่ต้องทอนครับ....อ่า...แล้วก็..พกไว้เถอะครับ ผมยกให้หนึ่งครั้ง..แต่กลางวันนี้...พี่ปิ่นต้องไปทานข้าวกับผมนะครับ”
“คือว่า...เอ่อ..คุณนินคะ..คือ..ดิฉัน...ทำกับข้าว..มาเอง..น่ะค่ะ...อ่ะ..คงจะไม่รบกวน..คุณนิน..”
“เหรอครับ..บังเอิญจังเลย...ผมเองก็นำกับข้าวมาเองเหมือนกัน...พี่ปิ่นพักกี่โมงน่ะครับ..”
“คุณนินคะ..ดิฉันว่าแบบนี้คงจะไม่เหมาะสมนะคะ...ถ้าใครมาเห็นเข้า...”
“ไม่เห็นมีอะไรเสียหายนี้ครับ..” เพราะเธอมัวแต่ทำท่าทีเกรงกลัวทำให้ผมรู้สึกยิ่งใหญ่เป็นนายขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ผมลุกขึ้นจากเก้าอี้และเดินตรงเข้ามาหา พี่ปิ่น เอามือจับไหล่ทั้งสองของเธอไว้ บีบนวดเบาๆเพื่อเป็นการช่วยผ่อนคลาย ให้ตายเถอะ ไหล่เธอแข็งชะมัดเลยแหะ คงจะเกร็งน่าดูเลย
“คุณนินคะ..ดิฉันว่าหยุด..เถอะค่ะ...ถ้าใครมาเห็นเข้า...” พี่ปิ่นพยายามพูดให้ผมหยุด แต่มือเธอไม่ยักจะขึ้นมาปัดขัดขืนผมเลยแหะ
“ทานข้าวกับผมนะครับ...” ผมยืนยันคำเดิม “ถ้าครั้งนี้หนี ผมโกรธจริงๆด้วย..”
“กะ..ก็ได้ค่ะ...เอ่อ..ดิฉันพัก.. 11โมงค่ะ..”
“โอ้ว..รอบแรกเลยสินะ..ถ้าอย่างนั้น..ผมขอรีบเคลียร์งานก่อนนะครับ..แล้วเราไปทานข้าวกัน..อยากลองชิมฝีมือของพี่ปิ่นจังเลยแหะ..” ผมตบบ่าเธอเบาๆและกระโดดกลับมาทีโต๊ะทำงาน “11โมงเจอกันที่ห้องพนักงานนะครับ... ”
ปิ่น พยักหน้าและเดินออกจากห้องไป ... พอเธอไปแล้วผมก็กดบานพับขึ้น ... แหม ... เห็นนะว่า พวกพนักงานที่อยู่ข้างนอกเนี้ย แอบมองเข้ามาทางนี้ด้วย .. เดี๋ยวไม่นานคงจะมีข่าวนินทาแปลกๆล่ะมั้ง ช่างเถอะ รีบทำงานดีกว่าเรา ..นี้จะเป็นเดทแรกของผมในรอบหลายปีเลยนะเนี้ย
และแล้วเวลา 11 โมง ...ก็มาถึง ผมรีบบึ่งไปที่ห้องพนักงานทันทีหลังจากที่ตอกบัตรเข้าพักเรียบร้อยแล้ว ..
แต่เป็นที่น่าเศร้าใจเมื่อความหวังของผมได้ทุกทำลายลงอีกแล้ว ... ป้าปิ่น แกเบี้ยวผมอีกแล้ว...
ความจริงคือ แกพักไปตั้งแต่ 10 โมงแล้ว ช่วงที่ผมกำลังเดินลงไปหาแก ก็เป็นช่วงที่แกกำลังเดินขึ้นมาเข้างานพอดี
นี้มันอะไรกันเนี้ย !!! ยัยคนนี้จะกวนประสาทกันไปถึงไหนเนี้ย ทำไมถึงต้องหลบกันแบบนี้ด้วยนะ รังเกียจอะไรผมขนาดนั้นกัน หรือว่าผมมันไม่หล่อ เหอะ.. จริงสินะ เธอเองก็สวยใช้ได้ตัวเลือกคงจะเยอะสิท่า ผมเป็นแค่ผู้จัดการสาขากระจอกๆคงไม่อยู่ในสายตาของเธอ..ล่ะมั้ง ...— พวกสาวๆเนี้ยเอาใจยากทุกวัยเลยแหะ
เป็นมื้อกลางวันที่เซ็งที่สุดเลย อาหารที่ซื้อมาก็พาลไม่อร่อยไปด้วย สุดท้ายก็ต้องทิ้งมันไปทั้งที่ยังกินไปได้ไม่ถึงครึ่งเลย..
ตกบ่ายก็กลายเป็นการทำงานที่สุดแสนจะน่าเบื่อลากไปถึงตอนเย็น เมื่อพนักงานเริ่มทยอยกลับกัน ผมก็เริ่มเซ็งและหมดไฟทันที ... ระหว่างที่กำลังนั่งเคาะคีย์บอร์ดใส่ข้อมูลไปพลางๆนั้น ป้าปิ่นก็ขออนุญาตเข้ามาทำความสะอาดในห้องทำงานของผม .. ตอนแรกผมก็งอนนะ..กะว่าจะไม่คุยกับแกแล้ว..แต่แหม..มันอดไม่ได้จริงๆแหะ
“ฮะๆ..พี่ปิ่นเบี้ยวผมอีกแล้วนะ...น้อยใจเลยนะเนี้ย..” ผมพูดแบบติดตลกไป แต่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ตลกด้วย
ป้าปิ่นก้มหน้าก้มตาทำงานต่อไป แกเร่งเสียงเครื่องดูดฝุ่นให้ดังขึ้นราวกับว่าพยายามจะกลบเสียงของผมให้หายไป .. อะไรจะรังเกียจกันขนาดนี้เนี้ย – สุดจะทนแล้ว ผมลุกขึ้นจากโต๊ะทำงานตรงไปที่ด้านหลังของเธอ และกระซิบถามเบาๆ
“ผมทำอะไรให้พี่ อุ๊บ...” พูดไม่ทันจบ พี่ปิ่น แกก็ตกใจหันกลับมาเอาที่จับเครื่องดูดฝุ่นฟาดเข้าที่แก้มของผมซะก่อน
“ว้ายตายแล้ว...คุณนินคะ..ขอโทษนะคะ...คุณนิน...เจ็บไหมคะ...ดิฉันขอโทษจริงๆนะคะ...” ตกใจเป็นกระต่ายตื่นตูมเลยนะยัยตัวแสบ ..ผมเอามือกุมที่โหนกแก้มซึ่งบวมช้ำขึ้นมาทันที พร้อมทั้งยิ้มแห้งๆให้เธอ ให้ตายเถอะ ลงทุนมากไปหรือเปล่าเนี้ยเรา เจ็บก็เจ็บแถมยังดูโง่อีกแน่ะ “เดี๋ยวดิฉันไปเอา ยามาให้นะคะ..”
ว่าแล้ว พี่ปิ่น ก็วิ่งออกจากห้องไป ส่วนผมก็กลับไปนั่งที่ พลางคิดในใจว่าไม่น่าซ่ารนหาที่เลยตู นั่งอยู่เฉยๆก็ไม่เจ็บตัวแล้วแท้ๆ.. แต่เอาน่ะ..อย่างน้อย..ก็ยังได้คุยกับเธอล่ะวะ ..
พี่ปิ่น กลับมาพร้อมด้วยกล่องปฐมพยาบาล ฝีมือของเธอไม่เบาเลยนะเนี้ย มือก็นิ่มจังหวะลงมือก็ดี แทบจะไม่รู้สึกเจ็บเลย ไม่นานเธอก็ทำแผลให้ผมเสร็จเรียบร้อย แล้วก็รีบขอโทษอีกหลายต่อหลายครั้งจนฟังดูน่ารำคาญเลย
“ไม่เป็นไรหรอกครับ..แหะๆ...หายแล้วๆ..เอาล่ะ...กลับบ้านกันเถอะครับ..”
“เอ่อ คือว่าวันนี้...”
“ไม่ได้ครับ...พี่ปิ่นเบี้ยวผมสองครั้งแล้ว..ครั้งนี้ผมไม่ยอมให้เบี้ยวแน่ๆ.. ต่อให้ต้องอุ้มพี่ไปผมก็จะทำนะ..”
“คุณนินคะ..ดิฉันขอโทษจริงๆนะคะ...คือว่าวันนี้ดิฉันคงไม่... ว้าย…”
ขี้เกียจฟังแล้วน่าเบื่อ ขืนปล่อยให้เธอพล่ามอะไรต่อไป รับรองว่าผมต้องประสาทกินแน่นอน ผมจัดการรวบขาพี่ปิ่นแล้วยกแกขึ้นอุ้มไว้ในอ้อมแขน จากนั้นก็คว้ากระเป๋าสะพายของแกมาสะพายไว้และพาเดินจากออฟฟิศไปที่จอดรถ ..
แกนิ่งมาก ไม่ดิ้นเลย กลับซุกหน้าลงไปที่อกของผมตลอดทางอีกด้วย สงสัยจะอายมากนะเนี้ย – ตัวแกหอมเหลือเกินนะ แถมนิ่มอีกด้วย .. อยากจะสัมผัสมากกว่านี้จัง ..แต่แบบนี้คงยังไม่เหมาะ ...
ผมเปิดประตูรถและวางพี่ปิ่นลงบนเบาะเบาๆ ... แกเอามือปิดหน้าใหญ่เลยตอนที่นั่งอยู่บนเบาะแล้ว ...”ปิดหน้าทำไมน่ะครับ..” ผมถามและค่อยๆแกะมือแกออกช้าๆ .. ให้ตายเถอะ.. ใบหน้าของ พี่ปิ่น ตอนนี้แดงก่ำยิ่งกว่าผลชมพู่อีก ที่สำคัญคือ.. แกกำลังแอบยิ้มอยู่ด้วย...ท่าทางจะเขินหนักเลยนะเนี้ย ...
“ฮะ..พี่ปิ่นดู..น่ารักมากเลยนะครับเนี้ย..”
“ค่ะ..คุณนิน..” เธอตอบสั้นๆและหันหน้าหนีผม.. เอาล่ะสิ...เก๊กแตกแล้วสินะ..
.
ผมรีบขึ้นไปนั่งบนรถทันที .. และเริ่มที่จะถึงเนื้อถึงตัวแกบ้างแล้ว ..มีลุ้นล่ะงานนี้.. ผมจับไหล่ พี่ปิ่น แล้วก็นวดคลึงเบาๆ คลายความเหนื่อยล้าให้กับแม่บ้านประจำออฟฟิศ “เมื่อยไหมครับ..”
ป้าปิ่น ยิ้มๆแล้วก็หยักหน้ารับ ตั้งตีที่ผมดึงมือเธอออกและชมว่าเธอน่ารัก..เธอก็ยิ้มไม่หุบเลย รอยยิ้มอันแสนสดใสของเธอทำเอาผมหุบยิ้มไม่ได้เช่นกันนะเนี้ย .. ไม่นึกเลยว่าจะได้มีโอกาสมาเห็นเธอในมุมนี้ด้วย ดูน่ารักสดใสไม่ต่างอะไรไปจากเด็กสาวมหาวิทยาลัยเลย .. อยากจะสัมผัสเธอให้มากกว่านี้จัง ..
“แล้วขาล่ะครับ..” ผมย้ายมือมาจับที่ต้นขาของพี่ปิ่น ... นิ่มมาก... นุ่มเหมือนกับผ้านวมผืนใหญ่ที่ขดตัวรวมกันอยู่.. พี่ปิ่นพยักหน้าแบบเขินๆเปิดโอกาสให้ผมได้เดินเกมขั้นต่อไป ..แบบค่อยเป็นค่อยไป ...
มือข้างจับพวงมาลัย.. ส่วนอีกข้างก็บีบนวดให้กับพี่ปิ่น ซึ่งตอนนี้ดูผ่อนคลายมาก ไม่มีอาการเกร็งอีกต่อไปแล้ว
“พี่ปิ่นครับ....”
“คะ..คุณนิน...”
“ชอบผมไหมครับ..” ผมถามพลางนวดขาเธอไปด้วย ... พยายามจ้องตาเธอให้ได้ในขณะที่เธอก็พยายามจะหลบตาผมเอา
พี่ปิ่นเงียบไม่ตอบ หากแต่รอยยิ้มนั้นก็ยังคงไม่หายไปจากใบหน้า งั้นก็ขอตีความไปเลยว่าเธอเองก็คงคิดเช่นเดียวกัน
ผมเลื่อนมือขึ้นมานวดที่หน้าท้องของพี่ปิ่น .. คราวนี้แบนราบไม่มีแม้แต่ไขมันส่วนเกิน แสดงว่าแกเองก็ดูแลหุ่นพอสมควรนะเนี้ย .. บางทีอาจจะกินอาหารชีวจิตก็ได้นะ หน้าตาถึงได้ดูอ่อนเยาว์แบบนี้ ..แต่ใครสนล่ะ ผมคงไม่ไปถามเธอหรอก ..ตอนนี้ผมอยากจะลองสัมผัสอะไรที่มันมากกว่านี้... มือของผมค่อยๆเลื่อนขึ้นไปช้าๆๆ...จนเกือบจะ
“คุณนิน คะ..” พี่ปิ่น เรียกชื่อผมไว้ก่อนพลางกระแอ้มเสียงเบาๆ คงจะเร็วเกินไปสินะ..
“ฮะๆ..โทษทีครับๆ..งั้นเราไปหาอะไรกินกันดีกว่าไหมครับ..”
“คือว่า..ปกติแล้ว..ดิฉันจะทำกับข้าวเองที่ห้องน่ะค่ะ...เอ่อ...รบกวนคุณนินแค่ไปส่งที่ห้องก็พอแล้วค่ะ..”
“ว้าว. ทำอาหารเองด้วยเหรอครับ น่าสนใจจริงๆเลย...ถ้าไม่รังเกียจขอผมชิมได้ไหมนะ..”
“ที่ห้องดิฉันมันค่อนข้างจะแคบ และไม่เหมาะกับคุณนินน่ะค่ะ..”
“งั้นไปบ้านผมสิ..ถึงจะไม่ใหญ่มากแต่ก็กว้างพอตัว มีห้องครัวด้วยนะ...ผมไม่ค่อยได้ใช้ด้วย..นะครับพี่ปิ่น นะนะนะ”
ผมขอร้องเชิงอ้อนพร้อมทั้งเอามือถูแขนเธอเบาๆ ... พี่ปิ่นพยักหน้ารับแบบดูไม่เต็มใจเท่าไหร่ ... แต่เอาเถอะ เดี๋ยวไปถึงก็เต็มใจเองแหละ --- เราไปซื้อของที่ตลาดกันก่อน พี่ปิ่นลงไปซื้อคนเดียวเนื่องจากแกไม่อยากให้ใครมาเห็นว่า ผมซึ่งเป็นถึงผู้จัดการสาขาลงมาเดินจ่ายตลาดกับเธอซึ่งเป็นเพียงแค่แม่บ้านธรรมดาเท่านั้น..
พี่ปิ่นลงไปซื้อของอย่างว่องไวในราคาไม่กี่บาท .. ผมให้เงินเธอไป 300 แต่เธอกลับมาพร้อมเงินทอนและวัตถุดิบมากมาย .. เห็นเงียบๆแบบนี้ แต่ท่าทางก็อยากจะโชว์ฝีมือเต็มทีเลยล่ะสิท่า..
เมื่อได้ของแล้วผมก็รีบกลับบ้านทันที ... พี่ปิ่น ดูเกรงใจผมมาก..ตอนเข้ามาในบ้านผมเธอระมัดระวังทุกฝีเท้าฝีก้าว จนผมต้องบอกให้เธอไม่ต้องเกรงใจเลยทีเดียว
“คุณนินคะ...คือว่า..”
“อ๋อ..มันก็รกแบบนี้แหละครับ...” ผมหัวเราะแบบเขินๆเมื่อดันบังเอิญมาถูกเห็นสภาพภายในบ้านจนได้ .. ของบางอย่างผมยังไม่ได้รื้อออกจากกล่องเลยด้วยซ้ำ ..
ผมชี้ให้พี่ปิ่นเข้าครัวไป – แกบอกให้ผมนั่งดูทีวีไปก่อนส่วนแกจะจัดการเรื่องครัวเอง ... และดูเหมือนว่าครัวนี้จะเหมาะกับแกเป็นอย่างมากเลยนะ.. แถมพี่ปิ่นก็ดูมีความสุขมากอีกด้วยเวลาทำอาหาร .. เห็นแบบนี้แล้วอยากจะได้แกมาเป็นแม่บ้านแม่เรือนให้จริงๆเลย ... ไม่นานนักอาหารก็ถูกนำมาเสิร์ฟบนโต๊ะอย่างพร้อมเพียงมีทั้งผักเคียงน้ำพริก ต้มยำและผัดผักหน้าตาประหลาดแต่ก็น่าอร่อย กลิ่นก็หอม ... อืมมม... รสชาติก็ไม่เลว...ให้ตายเถอะ.. ผมชักจะหลงรักพี่ปิ่นขึ้นมาจริงๆจังๆซะแล้วสิ เสน่ห์ปลายจวักนี้มันมีผลกับทุกยุคสมัยจริงๆนะ
ระหว่างกินผมก็หยอกล้อหยอกเล่นกับพี่ปิ่นบ้าง แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรลามปามแกหรอก แค่เกือบๆ..มีแซวเล่นๆกันบ้างตามประสา อันที่จริงแล้วผมก็แค่อยากจะเห็นแกยิ้มเท่านั้นแหละครับ
พอกินเสร็จพี่ปิ่นก็เป็นธุระจัดการทำความสะอาดให้ .. เท่านั้นไม่พอแกยังถือวิสาสะขัดพื้นและทำความสะอาดบ้านให้ผมแบบไม่ต้องขออีกต่างหากแน่ะ.. น่ารักอะไรแบบนี้เนี้ย ...ต่างจากอีเจ๊คนขายน้ำเมื่อวันก่อนลิบลับเลยจริงๆ
แต่บางทีถ้าวันนั้นผมไม่ได้ออกไปเจอเธอในสภาพนั้น เหตุการณ์แบบตอนนี้ก็คงจะไม่เกิดขึ้นก็ได้
เมื่อเคลียร์บ้านให้ผมเสร็จแล้ว พี่ปิ่น ก็ทำท่าจะกลับเลย .. แต่ผมอ้อนให้เธอนั่งที่โซฟาก่อน..ก็แหม..ช่วยกันขนาดนี้แล้วจะไม่ให้ผมตอบแทนให้เธอบ้างได้ไงกันล่ะ .. ต้องอ้อนพักใหญ่เลยล่ะ เธอถึงจะยอมลงมานั่งให้ผมนวดไหล่เอาใจ ..
ทั้งศอกทั้งอุ้งมือบีบถูกงัดออกมาใช้เอาอกเอาใจสาวใหญ่คนนี้แบบไม่มีกั๊ก ทั้งคำพูดหวานๆสไตล์เด็กหนุ่มที่ผมจำมาจากหนังก็มาด้วย ... ทำเอาพี่ปิ่นแกยิ้มไม่หยุดเลย ..ตอนนี้เธอผ่อนคลายมากแล้ว... ถึงขนาดแทนตัวเองว่าพี่เลย
“พี่ไม่ค่อยได้คุยกับคนอื่นแบบนี้มานานแล้วล่ะ...ปกติก็เจอกันแค่ที่ทำงานอย่างเดียว เลิกงานมา บางทีพี่เดินในตลาดเจอคนในที่ทำงานเขาก็เดินหนีกัน..สงสัยพี่ดูสกปรกมั้ง..”
“แหม...พวกนั้นตาบอดหรือเปล่านะ..ถึงได้เดินหนีนางฟ้า หรือว่าจะอิจฉาที่สวยสู้พี่ปิ่นไม่ได้กัน..ผมล่ะสงสัยจริงๆเลย”
ผมพูดชมพลางบดซอกลงบนไหล่ของพี่แก – เรานี้ก็พูดจากะล่อนใช่ได้เหมือนกันนะเนี้ย
“ไม่หรอกค่ะ คุณนินก็ชมพี่มากเกินไป..อุ๊ยย...มือซนอีกอย่างนะคะ..”
“ตายแล้ว..ขอโทษทีครับ..บางทีนวดเพลินมือมันก็พลาดไปบ้างน่ะ” ผมแก้ตัวน้ำขุ่นๆหลังจากที่ เผลอ แบบตั้งใจ เอามือไปจับที่หน้าอกของพี่ปิ่น ... ขนาดกลางๆไม่ใหญ่ไม่เล็ก ไม่กระชับแต่ก็พอมันมือได้อยู่ ...
“แหม..คุณนินก็..แล้วแบบนี้..ยังจะเรียก..พลาดอีกเหรอ...”
ผมถือโอกาสจังหวะนาทีทองนี้ ใช้มือทั้งสองข้างช้อนหน้าอกของพี่ปิ่นไว้แล้วบีบนวดเบาๆ “อันนี้ก็เป็นการนวดอย่างหนึ่งครับ พี่ปิ่น...พี่ทำงานเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว..ผมก็ต้องบริการพี่บ้างสิ..จริงไหมครับ...”
พี่ปิ่นเงียบและไม่ขัดขืนก็เข้าทางผมเลยสิครับ... – ผมจูบไปที่ต้นคอของแกแล้วดูดเบาๆ มีรสเค็มเหงื่อนิดๆแต่ก็ได้อารมณ์สาววัยทำงานไปอีกแบบ ..อ๊า.. กลิ่นน้ำยาล้างพื้นกับกลิ่นน้ำหอมราคาถูกผสานลงตัวกันได้อย่างดี ...
“พี่ปิ่นครับ..”
“คะ...คุณนิน...อื้มม...อย่าเล่น..แบบนั้นสิคะ...”
“พี่ปิ่น..อมควยผม..ให้หน่อยสิครับ..”
ผมถูศีรษะไปมาที่หลังของเธอออดอ้อนร้องขอพลางขยี้หัวนมเธอเล่นไปด้วย ..
“คุณนินลามกจังเลย..ไม่นึกว่าจะเป็นแบบนี้เลยค่ะ...” พี่ปิ่นหันมาหัวเราะเบาๆ พร้อมทั้งเกล้าผมขึ้นไป จากนั้นแกก็ลงไปนั่งหันหน้าเข้ามาที่ระหว่างขาของผม สบายตัวล่ะเราคืนนี้ “พี่ไม่ได้ทำให้ใครมานานแล้วนะคะ..คงจะไม่ดีเท่าไหร่..”
“ไม่เป็นไรครับ...แค่พี่ปิ่นยอมทำให้..” ผมยิ้มและรูดซิบกางเกงออก... ควักท่อนเนื้อที่แข็งพอประมาณออกมารูดต่อหน้าแม่บ้านของออฟฟิศผม ... “ผมก็ดีใจแล้วครับ...”
“ค่ะ..”
พี่ปิ่นจับควยผมตั้งขึ้นและรูดขึ้นรูดลงช้าๆ แกค่อยๆใช้ลิ้นแตะที่ปลายควยก่อน จากนั้นก็ค่อยๆอมเข้าไปทีละนิดจนมิดลำ จากนั้นก็รูดปากขึ้นลง พลางส่งสายตาขึ้นมามองกับผมบ้างในบางจังหวะ ..อูยเสียวโว้ยย...ไหนบอกไม่ได้ทำมานาน...เทคนิคแบบนี้มันไม่ธรรมดาเลยนะเนี้ย ไออุ่นจากปากของเธอ..ทำให้ผมรู้ราวกับว่าควยกำลังจะละลายหายไปในปากเธอเลย...
พอเครื่องติดแล้ว..พี่ปิ่นก็เริ่มโชว์สเตปทันทีเลย ... แกเลียควยผม ตั้งแต่หัวจรดโคนลามไปถึงดูดถุงอัณฑะให้เลย เท่านั้นยังไม่พอ แกยังอมควยแบบกดอัดเต็มลำจนปลายควยกระแทกคอหอยแกอีกด้วย.. เสียวสุดๆไปเลย... ผมเสียวจนเผลอกดหัวแกให้โม๊คเร็วขึ้นแบบไม่ดูรุ่นเลย..โชคดีที่แกไม่ถืออะไรแถมยังยิ้มให้ผมอีกด้วย ...
“ฮ้า...พี่ปิ่นจ๋า..ซี้ดดด...เสียวมากเลย..” ผมลูบหัวพี่ปิ่นไปพลางชมแกไปพลางครางเสียวไปพลาง..ลีลาการใช้ปากโต้ควยขของแกนี้ทำเอาขาผมไม่ติดกับพื้นเลย ... – “พี่ปิ่น...” ผมล้วงมือเข้าไปในเสื้อของพี่ปิ่นพร้อมทั้งบีบนมแกเล่นไปด้วย
“ขึ้นขย่มควยผมสิ..อ๊า..เร็วสิ..เมียจ๋า...”
นี้ผมเงี่ยนจนเกินทนสุดๆแล้วนะเนี้ย – พี่ปิ่นก็ไม่ว่าอะไรที่ผมพูดแปลกๆกับแก ... แกลุกขึ้นถอดกางเกงออก... บั้นท้ายกลมๆของแกทำเอาผมอดใจไม่ไหวจนต้องดึงตัวแกเข้ามากอด... จากนั้นเราก็จูบกัน..อ๊า... นอกจากจะดูดควยเก่งแล้ว ดูดปากก็ยังเก่งอีกด้วย.. อีสาวแม่บ้านคนนี้นี้ไม่ธรรมดาเลยจริงๆนะเนี้ย.. ทำงานบ้านก็เก่ง เรื่องเตียงก็ถนัด แบบนี้มันแม่บ้านในฝันชัดๆเลยให้ตายเถอะโรบิ้น...
ระหว่างที่จูบกันไป พี่ปิ่นก็จับควยผมสาวไปพลางด้วย ก่อนที่แกจะค่อยๆฝนหัวควยผมเล่นเหมือนนักสนุ๊กฝนชอล์กที่ปลายไม้ จากนั้นแกก็ขึ้นมานั่งคร่อมผมและจับหัวควยของผมจ่อที่ปากรูหีของเธอ ...”คุณนินขา...แน่ใจนะคะว่าจะไม่หาถุงยาง..อ๊า..อ๊างงง...โอเคค่ะ..” พูดมากเดี๋ยวก็เสียอารมณ์พอดี.. ผมกระแทกเอวสวนขึ้นไปทำให้ควยของผมมุดเข้าไปอยู่ในหีของเธอทั้งลำทั้งที ... อืม..จะใช้คำว่าฟิตก็คงไม่ใช่ แต่ก็ไม่หลวมมากขนาดไม่รู้สึกอะไรเลย สำหรับข้างในร่องหีของพี่ปิ่นนั้นคงจะนิยมได้แต่เพียงว่า..กระชับ ก็แล้วกันครับ..แหม อายุปูนนี้แล้วแกจะผ่านสงครามมานับไม่ถ้วนก็คงไม่แปลกหรอก..
เรื่องนั้นมองข้ามไปเถอะ..มาดูลีลาของแกซะก่อนเถอะแล้วจะพูดกันไม่ออก...
พี่ปิ่นควบควยผมอย่างชำนาญประดุจลิโป้ควบม้าเซ็กเธาว์ลุยฝ่าดงศัตรู อีกทั้งเสียงครางของแกนั้นก็ไพเราะยิ่งกว่าเสียงนกร้องเพลงเสียอีก ... ผมรีบเอาหน้าซุกอกของเธอทันที แม้จะหย่อนยานไปนิดแต่มันก็เป็นเรื่องธรรมดา สังขารย่อมเป็นไปตามกาลเวลา ..แต่ความเงี่ยนและความสามารถในการร่วมรักของเธอนั้นไม่ได้ด้อยไปตามกาลเวลาเลยหากแต่ยังคงไว้ซึ่งประสบการณ์อันหาที่เปรียบไม่ได้ .. ในบรรดาสาวๆที่ผมเคยอึ๊บมานั้น ต้องยกให้พี่ปิ่นเป็น เดอะ เบสท์ เลยแม้ว่าจะพึ่งได้เย็ดกันไปไม่กี่นาทีก็เถอะ ...
“อ๊างงงง...คุณนินขา...ซี้ดดดด....คุณนินนน....อื้มมมมม....” พี่ปิ่นโยกควยผมพร้อมทั้งเรียกชื่อผมไปด้วย พลางใช้สองมือประคองเต้าของตนและเขี่ยหัวนมไปพลาง ให้ตายเถอะ เธอดูร่านเหมือนนางเอกหนังโป๊เลยแหะ ... ทำเอาผมไปไม่เป็นเลยสำรองช็อคนี้ ..เลยทำได้แค่กอดเอวเธอแล้วดูเธอเขี่ยหัวนมตัวเองเล่นไปด้วย ..
ทว่าระหว่างที่เกมเสียวของเรากำลังดำเนินกันอย่างเมามันส์นั้น...อยู่ดีๆโทรศัพท์ของ พี่ปิ่น ก็ดันมีเสียงเรียกเข้ามาเสียก่อน..ให้ตายเถอะ..เวรเอ๊ย คนกำลังมันแท้ๆ ใครกันวะมาทำลายความสุขกันได้ ...
พี่ปิ่นหยุดขย่มทันทีเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์
“เอ่อ..คุณนินคะ...”
“เชิญครับ...” แอบเซ็งเล็กน้อยแต่คิดอีกแง่เธออาจจะมีสายสำคัญที่ต้องรับจริงๆก็ได้ ... ขออย่างเดียวคืออย่าให้เป็นผัวเก่าเธอมาขอคืนดีหรือว่าเป็นผัวคนปัจจุบันที่เธอแอบซุกไว้เลย ..ไม่งั้นผมคงไม่มีอารมณ์เย็ดต่อแน่ๆ ..
[จ้า...ว่าไงกันจ๊ะเด็กๆ..] เด็กๆ...หืม..หมายถึงลูกหรือเปล่าเนี้ย
[ใช่ๆ...ตอนนี้แม่กำลังจะกลับบ้านจ๊ะ พอดีออกมาซื้อของ] นั่นไงลูกจริงๆด้วย..แล้วผัวล่ะ..อยู่ปลายสายหรือเปล่า หรือว่าหย่ากันเลย ให้ตายเถอะ.. ทำไมอยู่ดีๆก็รู้สึกหึงแปลกๆขึ้นมาฟร่ะเนี้ย ทั้งๆที่พึ่งจะเจอกันแท้ๆ แต่เราก็ไม่อยากจะเสีย พี่ปิ่นไปให้ใครเลย
ผมเดินเข้าไปที่ด้านหลังของเจ๊ปิ่น..กอดจูบอ้อนแกจากด้านหลังให้แกหันมาจนใจผมบ้าง
[ตอนนี้แม่...เอ่อ...คือว่าแม่...] ผมเอานิ้วรูดที่ร่องเสียวของ พี่ปิ่น เบาๆแต่ไม่ได้ยัดเข้าไปในร่อง สร้างความเสียวให้แกได้มิใช่น้อย ..หึหึหึ.. เห็นท่าทีทรมานของพี่แกแล้วก็แอบสะใจเล็กน้อย สมน้ำหน้าอยากเมินกันดีนัก...
ผมจัดการเสียบควยเข้าไปในร่องหีของเธอ..และเริ่มเย็ดช้าๆแบบแนบเนียนในขณะที่เธอก็กำลังคุยโทรศัพท์กับลูกๆอยู่ด้วย .. – พี่ปิ่นก้มหน้าลงท่าทางเกร็งสุดๆ เสียงของแกก็สั่นเครือดูพิรุจมาก
[แม่ยังไม่ว่างนะลูก..เดี๋ยว...แม่...เอ่อ...ถึงแล้ว...อ๊า...แม่หมายถึง...ถึงบ้านน่ะจ๊ะ..]
[มะ..แม่..รักพวก..หนูนะ...อ่า...ปะ..ปอน..ดูแล...น้องๆ..ด้วยนะลูก....]เสร็จแล้วแกก็วางสายไป...
“แหม..คุณนิน..คะ..เล่นทีเผลอ..แบบนี้..แย่..จังเลยนะคะ..”
พี่ปิ่นหันมามองผมพร้อมทั้งยิ้มสู้..แกชักควยของผมออกไป .. หันหน้าเข้ามาหาผมจากนั้นก็จูบผมและค่อยๆผลักผมไปที่โซฟาตัวเดิม ตัวที่เราโยกกันอยู่หน้านี้ .. – แกจัดการขึ้นมานั่งคร่อมตักผมโดยหันหน้าออก .. ก้นของเธอกองขึ้นมาเป็นลูกซาลาเปาเลยแหะ ...
แล้วลีลาการกระแทกควยด้วยบั่นท้ายของเธอก็ไม่ทำให้ผมผิดหวัง ... นี้หากเปลี่ยนลีลาการเย็ดกันเป็นตำแหน่งงานแล้วล่ะก็ ฝีมือระดับพี่ปิ่นนี้ก็เข้าขั้นเป็น ซีอีโอ ได้เลย – ผมเสียวซะจนลมหายใจร่วนไปหมดเลย แถมยังจะแตกเอาดื้ออีกแน่ะ เลยต้องกลั้นไว้ กลั้นไว้...ฮ้า...จะไม่ไหวแล้ว
“อา...คุณนิน...ทนหน่อยนะ...ซี้ดดดด....อื้มมมม.ม..อ๊างงงงง....พี่จะ...เสร็จ...แล้ว...ซี้ดดดด...คุณนินควยใหญ่มากเลย..อูยยยย...ไม่เคยเย็ดกับคน..ควยใหญ่ขนาดนี้..มาก่อนเลย..อ๊า...”
ผมทิ้งตัวพิงไปกับโซฟาทำใจให้สบายสุดๆ...พยายามนึกถึงเรื่องอื่นเพื่อไม่ให้ตัวเองเสร็จไว...แต่ก็ไม่ทันแล้ว...เอวของพี่ปิ่นที่กระแทกลงมาดังตับๆอยู่ตลอดเวลา พร้อมทั้งร่องหีภายในที่ตอดควยผมจนไม่มีอากาศหายใจ...ทำให้ผมต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไปในที่สุด ...
แต่ถึงแม้ว่าผมจะศิโรราบให้กับหีของสาวใหญ่รุ่น 38 แล้วนั้น แต่ก็ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ยอมจบง่ายๆ ..เธอใช้โอกาสตอนที่ผมกำลังฉีดอัดน้ำกามอยู่ในร่องหีของเธอนั้น โยกควยอย่างรุนแรงแบบสุดแรงเกิน จนตัวผมสั่นหงกไปหมด ... รู้สึกเสียวจนชาที่หัวควย เรี่ยวแรงที่แข้งขาก็พลาดหายไปหมดเลย..ไม่ไหวแล้ว...เสียวจนทน..ไม่ไหวแล้ว...อูยยย..โอ๊ยยย...นี้แหละที่เขาเรียกว่าเสียวจนต้องร้องขอชีวิตจริง ...
ในที่สุด..ยังจากขย่มจนควยผมยวบลงเกือบจะอ่อนตัว พี่ปิ่นก็น้ำแตกได้ซักที ...— เป็นการออกกำลังกายหลังมื้อค่ำที่เหนื่อยที่สุดในชีวิตผมเลย ... นี้ผมประเมินพี่ปิ่นต่ำเกินไปนะเนี้ย ผมนึกว่าผมจะเป็นฝ่ายเย็ดจนเธอต้องนอนอายไม่กล้าสบตาผมซะอีกนะ ..กลายเป็นว่า เธอเล่นผมซะลุกไปอาบน้ำไม่ไหวเลย ..
สุดท้ายแล้วคืนนั้น พี่ปิ่นก็ต้องนอนกับผมที่บ้านเนื่องจากผมเพลียจนไปส่งเธอไม่ไหว – ถ้าไม่นับเรื่องซ็กส์ที่ถือว่าเธอทำได้ยอดเยี่ยมแล้วนั้น เรื่องงานบ้านงานเรือนพี่ปิ่นก็ไม่แพ้ใครเช่นกัน .. เพราะในขณะที่ผมหลับอยู่นั้นพี่ปิ่นซึ่งเข้าห้องที่หลังเนื่องจากต้องไปคุยโทรศัพท์กับลูกก่อน ก็ได้จัดการทำความสะอาดชั้นบนให้ผมด้วย .. เปิดออกมาตอนเช้าเล่นเอาตกใจกันเลยทีเดียวนึกว่าหลงทางมาบ้านคนอื่นเสียอีกแน่ะ ...
ความสัมพันธ์ของเรากำลังพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นแล้ว อันที่จริงผมอยากจะรู้จักพี่ปิ่นให้มากกว่านี้นะเนี้ย อยากจะรู้ที่มาและประวัติของเธอ แน่นอนว่าไม่ว่าเธอจะผ่านอะไรมาผมนั้นย่อมที่จะรับได้อยู่แล้ว ทุกอย่างเลย... ต่อให้เธอเคยขายตัวมาแล้วก็ตาม..ผมก็คิดว่าผมรับได้นะ ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น